Category Archives: เรียนภาษาจีนกับครูจู

ภาษาจีน เหมือนเคย ไม่มีพลาด [照 ….. 不误 ]

...照 ... 不误
รูปแบบประโยค
…..照 ….. 不误
zhào….. bú wù
เจ้า …… ปู๋ อู้
…. เหมือนเคย ไม่มีพลาด
*** ความหมายและการใช้ของรูปแบบประโยคนี้คือ หากเราต้องการกล่าวถึง การดำเนินกิจกรรมหรือทำอะไรตามปกติอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่เคยได้รับผลกระทบที่มาจากปัจจัยภายนอกเลย
โครงสร้างประโยคคือ 照 + คำกริยา + 不误
มาดูตัวอย่างประโยคเพื่อจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นกันค่ะ
我天天去游泳,有的时候下雨我也照游不误。
wǒ tiāntiān qù yóuyǒng, yǒu de shíhou xià yǔ wǒ yě zhào yóu bú wù.
หว่อ เทียน เทียน ฉวี้ โย๋ว หย่ง , โหย่ว เตอ สือร์ โห้ว เสี้ย..า หวี่ หว่อ เหยี่ย เจ้าร์ โย๋ว ปู๋ อู้
ฉันไปว่ายน้ำทุกวัน , บางครั้งฝนตก ฉันก็ยังไปว่ายน้ำเหมือนเคย ไม่มีพลาดคำศัพท์….

  • 天 天 tiāntiān เทียน เทียน …ทุกวัน
  • 游泳 yóuyǒng โย๋ว หย่ง … ว่ายน้ำ
  • 有的时候 yǒu de shíhou โหย่ว เตอ สือร์ โห้ว … บางครั้ง / บางที
  • 下雨 xià yǔ เสี้ย..า หวี่ … ฝนตก
  • 也 yě เหยี่ย … ก็

他天天来图书馆读书,刮风下雨也照来不误。
tā tiāntiān lái túshū guǎn dúshū, guā fēng xià yǔ yě zhào lái bú wù.
ทา เทียน เทียน ไหล ถู ซูร์ ก่วน ตู๋ ซูร์ , กวา เฟิง เสี้ย..า หวี่ เหยี่ย เจ้าร์ ไหล ปู๋ อู้
เขามาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดทุกวัน , ฝนจะตกฟ้าจะร้อง ก็ยังมาเหมือนเคย ไม่มีพลาด

คำศัพท์…

  • 图书馆 túshū guǎn ถู ซูร์ ก่วน … ห้องสมุด
  • 读书 dúshū ตู๋ ซูร์ … อ่านหนังสือ
  • 刮风 guā fēng กวา เฟิง … ลมพัดแรง
  • 下雨 xià yǔ เสี้ย..า หวี่ … ฝนตก
  • 刮风下雨 เป็นสำนวนจีน แปลว่า ฝนตกลมพัดแรง , เป็นสำนวนไทยก็คือ ฝนตกฟ้าร้อง(คำนี้แปลผันไปตาม สำนวนไทยค่ะ)

医生让他戒酒,可他一见到酒还是照喝不误。
yīshēng ràng tā jiè jiǔ, kě tā yī jiàn dào jiǔ háishì zhào hē bú wù.
อี เซิงร์ ยั่งร์ ทา เจี้ย จิ่ว , เข่อ ทา อี๋ เจี้ยน เต้า จิ้ว ไห สือร์ เจ้าร์ เฮอ ปู๋ อู้
คุณหมอให้เขาเลิกเหล่า , แต่พอเขาเห็นเหล้าเมื่อไร ก็ยังคงดื่มเหมือนเคย ไม่มีพลาด

คำศัพท์…

  • 医生 yīshēng อี เซิงร์ … คุณหมอ
  • 让 ràng ยั่งร์ … ให้
  • 戒酒 jiè jiǔ เจี้ย จิ่ว … เลิกเหล้า
  • 可 kě เข่อ … แต่
  • 一见到酒 yī jiàn dào jiǔ อี๋ เจี้ยน เต้า จิ่ว … พอเห็นเหล้าเมื่อไร
  • 还是 háishì ไห สื้อร์ … ยังคง
  • 喝 hē เฮอ … ดื่ม

จาก ๑๐๐ รูปแบบประโยคจีน อาศรมสยาม – จีนวิทยา
………………………………………….

ด้วยความรักและปารถนาดีเสมอจาก ครูจู ค่ะ

ไวยากรณ์จีน การใช้ 不得不 vs 得

เรียนภาษาจีนกับครูจู

不得不 vs 得 [bùdé bù vs děi]  ปู้ เตอ ปู้ vs เต่ย

ทั้งสองคำนี้เป็นคำ กริยานุเคราะห์ 助动词: มันทำหน้าที่ขยายคำกริยา และ คำคุณศัพท์

不得不 bùdé bù

โครงสร้าง 不得不 + คำกริยา

แปลว่า…..ไม่อาจจะไม่ + กระทำ = ต้องกระทำ (ด้วยความจำเป็น)
หมายถึง… เน้นว่า ตัวเราไม่อยากจะกระทำสิ่งนี้ แต่สภาพและเงื่อนไข บีบบังคับให้กระทำ ด้วยความจำเป็น
ตัวอย่าง…

  • 考试结束的时间到了,我 [不得不+交] 考卷。
    kǎoshì jiéshù de shíjiān dàole, wǒ [bùdé bù jiāo] kǎojuàn.
    เวลาของการสอบสิ้นสุดลงแล้ว ฉัน [ไม่อาจจะไม่+ส่ง]กระดาษข้อสอบ
    (ฉันน่ะ ไม่ได้อยากส่งตอนนี้เล้ย…แต่หมดเวลาสอบแล้ว จำเป็นต้องส่ง )
  • 为了减肥,我 [不得不+运动]。
    wèile jiǎnféi, wǒ [bùdé bù +yùndòng].
    เพื่อ ลดความอ้วนแล้ว , ฉัน [ไม่อาจจะไม่+ออก]กำลังกาย
    (ฉัน ไม่ได้อยากออกกำลังกายเล้ย แต่ว่าฉันต้องการลดความอ้วน เลย จำเป็นต้องออกกำลังกาย)

得 děi ….ต้อง , จะต้อง , จักต้อง ,จำเป็นต้อง

1..แสดงถึงความจำเป็นต้องกระทำ

  • 我累了,得休息了。
    wǒ lèile, děi xiūxí le.
    ฉันเหนื่อยแล้ว ต้องหยุดพักผ่อนแล้วล่ะ
  • 我的手机丢了,得再买一个。
    wǒ de shǒujī diū le, děi zài mǎi yīgè.
    มือถือฉันหาย จำเป็นต้องซื้อใหม่อีกเครื่องหนี่ง

2. สิ่ง หรือ เรื่องราว ที่คนเรา ควรกระทำ

  • 做人得诚实。
    zuòrén děi chéngshí.
    จั้ว เยิ๋นร์ เต่ย เฉิงร์ สือร์
    เป็นคน จักต้อง ซื่อสัตย์จริงใจ
  • 人人都得遵守法律。
    rén rén dōu děi zūnshǒu fǎlǜ.
    เยิ๋นร์ เยิ๋นร์ โตว เต่ย จุน โส่วร์ ฝ่า ลวี่
    ทุกๆคนต่าง จักต้อง ปฎิบัติตามกฎหมาย

3. ในความเป็นจริง จะต้องกระทำ
พูดถึงเรื่องราวที่ต้องจัดการลำดับการการะทำก่อน

  • 明天是星期一,我们得上课。
    míngtiān shì xīngqí yī, wǒmen děi shàngkè.
    พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ พวกเรา จะต้อง เข้าเรียน
  • 下午我们得开会。
    xiàwǔ wǒmen děi kāihuì.
    ช่วงบ่าย พวกเรา จะต้อง ประชุม
  • 4.แสดงการ เสนอความคิดเห็น快迟到了,你得快一点儿。
    kuài chídàole, nǐ děi kuài yīdiǎn er.
    เกือบสายแล้วนะ , คุณ จะต้อง รีบๆหน่อย
  • 要下雨了,咱们得带上伞。
    yào xià yǔle, zánmen děi dài shàng sǎn.
    ฝนใกล้จะตกแล้ว, เรา จะต้อง พกร่มไปด้วย

5.  得+ตัวเลข …ประมาณ
(แสดงถึงจำนวนคร่าวๆโดยประมาณมักใช้แสดงเวลา และ ในด้านเงินทอง)

  • 从我家到学校开车得20 分钟。
    cóng wǒjiā dào xuéxiào kāichē děi 20 fēnzhōng.
    ขับรถ จากบ้านฉันถึงโรงเรียน ต้องใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที
  • 这个新书包得200 块钱。
    zhège xīn shūbāo děi 200 kuài qián.
    กระเป๋าหนังสือใบนี้ ต้องประมาณ ๒๐๐ บาท

6. คำปฎิเสธของ 得děi เต่ย… คือ 不用bùyòng ตามหลักผันเสียงต้องอ่านว่า ปู๋ ย่ง

A: 你明天上课吗?
A: nǐ míngtiān shàngkè ma ?
A: หนี่ หมิง เทียน สั้งร์ เข้อ มะ ?
A: พรุ่งนี้ คุณเข้าเรียนไหม ?

B: 明天上午得上课,下午不用。
B: míngtiān shàngwǔ děi shàngkè, xiàwǔ bùyòng.
B: หมิง เทียน สั้งร์ อู่ สั้งค์ เข้อ , เสี้ย.า อู่ ปู๋ ย่ง
B: พรุ่งนี้ช่วงเช้า ต้องเข้าเรียน , ช่วงบ่ายไม่ต้อง

บทสรุป

不得不 bùdé bù ปู้ เตอ ปู้
แปลว่า…..
ไม่อาจจะไม่ + กระทำ = ต้องกระทำ (ด้วยความจำเป็น)
หมายถึง…
เน้นว่า ตัวเราไม่อยากจะกระทำสิ่งนี้ แต่สภาพและเงื่อนไข บีบบังคับให้กระทำ ด้วยความจำเป็น

得 děi เต่ย….
แปลว่า….. ต้อง , จะต้อง , จักต้อง ,จำเป็นต้อง
หมายถึง….
๑..แสดงถึงความจำเป็นต้องกระทำ
๒.. สิ่ง หรือ เรื่องราว ที่คนเรา ควรกระทำ
๓.. ในความเป็นจริง จะต้องกระทำ
๔.. แสดงการ เสนอความคิดเห็น
๕… 得+ตัวเลข …ประมาณ
๖.. คำปฎิเสธของ 得děi เต่ย… คือ 不用bùyòng
………………………..
ด้วยความปารถนาดีจาก ครูจู ค่ะ
………………………..
อ้างอิง…汉语语法百项讲练

ติดตามได้ใน : ครูจู สอนภาษาจีนกลาง

ภาษาจีน ล้างหน้า[洗脸]

ล้างหน้า ภาษาจีน

洗脸。。。。
ประโยคจีน ง่ายๆ มาแล้วค่ะ….. ตื่นเช้ามา ล้างหน้ากันก่อนนะคะ

  • 我早上起床就洗脸。
    Wǒ zǎo shàng qǐ chuáng jiù xǐ liǎn.
    หว่อ เจ่า สั้งร์ ฉี่ ฉวง จิ้ว สี เหลี่ยน
    ฉันตื่นนอนตอนเช้า ก็ล้างหน้าเลย

คำศัพท์….

  • 我 Wǒ หว่อ … ฉัน (สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้ได้ทั้ง ชาย หญิง ทุกผู้ทุกวัย)
  • 早 上 zǎo shàng เจ่า สั้งร์ …ตอนเช้า (คำนามบอกช่วงตอนของเวลา ประมาณ ก่อน ๖ โมงเช้า ถึง ก่อน ๘ โมงเช้า)

** เน้นว่า เวลาโดยประมาณนะคะ

  • 起 qǐ ฉี่ … ขึ้น ↑  (คำกริยา… จากจุดที่อยู่ ขึ้นไปสู่ที่สูง )
  • 床 chuáng ฉวง… เตียง (คำนาม)

๒ คำนี้นำมารวมกันเป็นคำศัพท์ใหม่ สองพยางค์

  • 起床แปลว่า ลุกขึ้นจากเตียง = ตื่นนอน

คนไทย นับอากัปกิริยา จากการนอนหลับ แล้ว ลืมตาขึ้นมา คนจีน นับอากัปกิริยา จากการนอนหลับ แล้ว ลุกขึ้นจากเตียง

(คนจีน ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วลุกขึ้นจากเตียงเลย ไม่มีการเถลไถล เนื่องจากพื้นฐานการดำรงชีวิตที่ต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลา…. คนจีนสมัยก่อนนะ ก็ สมัยครูจูเหมือนกัน … ยังทันค่ะ ๕๕๕)

  • 就 jiù จิ้ว… ก็…….เลย  (คำกริยาวิเศษณ์ แสดงการกระทำที่สอง ต่อเนื่องจาก การกระทำแรกทันที)

** ตื่นนอนแล้ว 就ล้างหน้าเลย / กินข้าวเสร็จ 就 ไปโรงเรียนเลย

  • 洗 xǐ สี่ …ล้าง / ซัก / สระ / อาบ ( คำกริยา )

( การทำความสะอาดด้วยน้ำ จีนใช้คำว่า 洗 ได้เลยค่ะ )

  • 脸 liǎn เหลี่ยน… หน้า . ใบหน้า . ดวงหน้า (คำนาม)
    洗脸 xǐ liǎn สีเหลี่ยน… ล้างหน้า

(คำที่มีโครงสร้างเป็น คำกริยา+กรรม )

  • 洗 เป็นคำกริยา + 脸 เป็นคำนาม ( 脸 เป็นกรรมรองรับการกระทำของ 洗 )

คำโครงสร้าง กริยา + กรรม จะนำมาเสนอ ในตอนต่อๆไป นะคะ

  • 我早上起床就洗脸。Wǒ zǎo shàng qǐ chuáng jiù xǐliǎn.
    หว่อ เจ่า สั้งร์ ฉี่ ฉวง จิ้ว สี เหลี่ยน
    ฉัน ตื่นนอน ตอนเช้า ก็ ล้างหน้า เลย

“”””””””””””””””””””””””””””””””””

ฝึกฝนกันต่อไปนะคะ…… จาก ครูจู ที่น่าร๊ากกกก ค่ะ

กินในภาษาจีน (吃)

กิน ภาษาจีน

ประโยคง่ายๆ มาอีกแล้วค่ะ …. คำว่า 我吃饱了。

  • 我吃饱了。
    wǒ chī bǎole
    หว่อ ชือร์ เป่า เลอ
    ฉันกินอิ่มแล้ว

คำศัพท์….
我… wǒ หว่อ… ฉัน
(สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้ได้กับ ชาย . หญิง .ทุกผู้ทุกวัย )
吃… chī ชือร์… กิน ( คำกริยา )
饱… bǎo เป่า…อิ่ม ( คำคุณศัพท์ )
了… le เลอ… แล้ว ( คำเสริมน้ำเสียง )

คำที่ต่อเนื่องจาก

  • 你吃饭了吗?
    Nǐ chīfànle ma?
    หนี่ ชือร์ ฟั่น เลอ มะ ?
    คุณกินข้าว แล้วหรือยัง

เราจะตอบว่า

  • 我吃饭了。
    wǒ chīfànle
    หว่อ ชือร์ ฟั่น เลอ
    ฉันกินข้าวแล้ว

หรือ ตอบคำนี้ก็ได้

  • 我吃饱了。
    wǒ chī bǎole
    หว่อ ชือร์ เป่า เลอ
    ฉันกินอิ่มแล้ว

สังเกตุตัวอักษรจีน คำว่า ….

饭 ฟั่น….อาหาร และ 饱 เป่า…อิ่ม ดูสิคะ

มีอักษร 饣 ข้างซ้าย ที่เป็นหมวดนำ เหมือนกันเลยค่ะ อักษรหมวดนำตัวนี้ 饣มาจากตัวอักษรเดี่ยวตัวนี้ค่ะ 食 Shí สือร์…อาหาร
เมื่อ 食 Shí สือร์…อาหาร ทำหน้าที่เป็นหมวดนำอักษรที่เกี่ยวข้องกับอาหารก็จะเปลี่ยนรูปเป็นตัวนี้ค่ะ 饣เราจำไว้เลยค่ะว่า หากมีอักษรตัวนี้อยู่นำหน้าเมื่อใดความหมายของตัวเต็มของอักษรนั้น จะมีความเกี่ยวข้องกับ อาหารการกิน

…………………………..

ค่ะ … เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย ความรู้ภาษาจีน มีความหมายดีมาก ใช่ไหมคะ เรียนภาษาจีนกับครูจู

วิธีการใช้ และความหมายของ 又 และ 再 ว่าต่างกันอย่างไร

เรียนภาษาจีนกับครูจู

ภาษาจีน ครั้งละคำ…. ครั้งนี้ขอเสนอคำ 又、再

1. 又 [yòu] อีก

1.1 ใชในรูปที่มีการกระทำที่ซ้ำๆ  ……อีก (การกระทำซ้ำ = แสดงถึงอดีต )

他吃了一个包子又喝了一瓶牛奶。
[tā chīle yīgè bāozi yòu hēle yī píng niúnǎi] เขากินซาลาเปาไป1 ลูก แล้วดื่มนมวัวไปอีก 1 ขวด
(กินอย่างที่ 1 ไปแล้ว แล้วดื่มอย่างที่ 2 เข้าไปอีก เกิดการกระทำซ้ำอีก ใช้ 又 )

早上他来找了你一次,下午他又来了一次。可是你还没回来。
[zǎoshang tā lái zhǎole nǐ yīcì, xiàwǔ tā yòu láile yīcì. kěshì nǐ hái méi huílái.] ตอนเช้าเขามาหาคุณไปแล้ว 1 ครั้ง , ตอนบ่ายเขาก็มาอีก 1 ครั้ง ,แต่ว่าคุณก็ยังไม่กลับมา
(ตอนเช้ามาหาแล้ว 1 ครั้ง , ตอนบ่ายมาอีก 1 ครั้ง การกระทำซ้ำอีก ใช้ 又 )

我又被老师责备了。
[Wǒ yòu bèi lǎoshī zébèile.] ฉันถูกครู ตำหนิอีกแล้วล่ะ
(แสดงว่า เคยถูกตำหนิมาก่อนแล้ว ใช้ 又 )

……………………..

1.2 ใช้ในรูป  又……又…..  ทั้ง…… ทั้ง……
(แสดงถึงการกระทำ หรือ สิ่ง ..ที่หลากหลายขึ้น)

他又吃面包又喝牛奶。
[tā yòu chī miànbāo yòu hē niúnǎi.] เขาทั้งกินขนมปัง ทั้งดื่มนมวัว

她又聪明又可爱。
[tā yòu cōngmíng yòu kě’ài.] หล่อน ทั้งฉลาด ทั้งน่ารัก

……………………..

2. 再 [zài]  อีก , อีกครั้ง , แล้วค่อย….

การกระทำที่จะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป (แสดง อนาคต)

2.1  ……….อีก

我吃了一个包子想再吃一个。
[wǒ chīle yīgè bāozi xiǎng zài chī yīgè.] ฉันกินซาลาเปาไปแล้ว 1 ลูก , อยากกินอีก 1 ลูก
(กินไปแล้ว 1 ,,,,อยากกิน อีก = ลูกนี้ยังไม่ได้กิน ใช้ 再 .)
…. แต่ถ้ากัดกินลงไปเมื่อไร 再 จะหายไป….แล้ว 又 จะมาทันที ….

2.2  ……..อีกครั้ง

下课了,我们明天再见吧。
[Xiàkèle, wǒmen míngtiān zàijiàn ba.] เลิกเรียนแล้วล่ะ , พวกเราพรุ่งนี้ พบกันอีกครั้งนะ
( พรุ่งนี้ ( อนาคต) พบกัน อีกครั้ง (ยังไม่ได้พบ ใช้ 再 )

2.3  ….. แล้วค่อย…..(ทำสิ่งลำดับต่อไป)

我先做作业再去看电视。
[wǒ xiān zuò zuòyè zài qù kàn diànshì.] ฉันทำการบ้านเสร็จ แล้วค่อยไปดูโทรทัศน์
(ทำการบ้านเสร็จแล้ว ,,, แล้วค่อยไป (เป็นลำดับต่อไป ใช้ 再 )

ไวยากรณ์จีน 才 กับ 就 ต่างกันอย่างไร

才 กับ 就 ต่างกันอย่างไร

才 “เพิ่งจะ, ถึงจะ” บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่มีลักษณะ  晚(สาย) 慢(ช้า) 不容易(ไม่ง่าย)  不顺利(ไม่ราบรื่น)

  • 你怎么现在才来呢?ทำไมเธอเพิ่งจะมาตอนนี้
  • 我晚上到十一点才睡。ฉันกลางคืน 11 นาฬิกาถึงจะเข้านอน

就 “ก็” บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่มีลักษณะ  早(เช้า) 快(เร็ว)  ทันที(尽快)  容易(ง่าย)  顺利(ราบรื่น)

  • 他下课后就到足球场去了。หลังเลิกเรียนเขาก็ไปสนามฟุตบอลแล้ว
  • 春天就要来了。 ฤดูใบไม้ผลิใกล้จะมาถึงแล้ว
  • 我清晨5点就起床了。ฉันตีห้าก็ตื่นนอนแล้ว

ตัวอย่างประโยค

  • 8:00点上课,他7:00就来了。  เข้าเรียน 8.00 นาฬิการ เขา 7.00 นาฬิการก็มาแล้ว (早)
  • 8:00点上课,他8:00才来。  เข้าเรียน 8.00 นาฬิกา เขา 8.30 เพิ่งจะมา (晚)
  • 我看了一遍就记住了。 ฉันแค่ดูรอบเดียวก็จำได้แล้ว (快)
  • 他看了十遍才记住。 เขาดูตั้งสิบรอบเพิ่งจะจำได้  (慢)
  • 我去了一次就买到了。 ฉันไปแค่ครั้งเดียวก็ซื้อได้แล้ว (容易, 顺利)
  • 他去了三次才买到 。 เขาไปตั้งสามครั้งเพิ่งจะซื้อได้ (不容易, 不顺利)

 

นอกจากนี้ 就  ยังมีความหมายอื่นๆ อีกเช่น

  • 就你一个没来。 (มีเพียง)เธอคนเดียวที่ไม่ได้มา
  • ฯลฯ

การใช้ 一 向 กับ 一 直

เรียนภาษาจีนกับครูจู

ภาษาจีน ครั้งละคำ สำหรับผู้เริ่มเรียน ครั้งนี้เสนอ 一 向 กับ 一 直

一向 [yīxiàng] ก่อนหน้านี้, ถึงตอนนี้, แต่ไหนแต่ไร

๑. ก่อนหน้านี้ ( แสดงถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาช่วงหนึ่ง )

  • 前一向雨水多 。
    [qián yīxiàng yǔshuǐ duō.] ก่อนหน้านี้ น้ำฝนเยอะมาก…. ( จะมีธาราลิมปิกไหมหนอ???)

๒. ถึงตอนนี้ ( แสดงถึงตั้งแต่เจอกันครั้งก่อนมาจนถึงตอนนี้ )

  • 你一向好哇 !
    [Nǐ yīxiàng hǎo wa!] ถึงตอนนี้คุณสบายดีสินะ….

๓. แต่ไหนแต่ไร ( แสดง อดีต ถึง ปัจจุบัน ) = 一向来

  • 老师一向节俭 。
    [lǎoshī yīxiàng jiéjiǎn.] ครูแต่ไหนแต่ไร ประหยัด เรียบๆง่ายๆ เสมอมา
  • 一向好客 。
    [Yīxiàng hàokè.] แต่ไหนแต่ไร ก็ต้อนรับแขกอย่างเอื้ออารีตลอดมา

一 直 [yīzhí] ตรงไป, ตลอดจนถึง, โดยตลอด

๑. ตรงไป ( แสดงทิศทาง )

  • 你一直走 ,不要拐弯 。
    [nǐ yīzhí zǒu, bùyào guǎiwān.] คุณเดินตรงไปนะ ไม่ต้องเลี้ยวล่ะ

๒. ตลอดจนถึง ( เน้น ขอบเขตที่กล่าวถึง )

  • 全村从老人一直小孩都非常热情 。
    [quáncūn cóng lǎorén yīzhí xiǎohái dōu fēicháng rèqíng.] ทั้งหมู่บ้าน คนเฒ่าคนแก่ ตลอดจนถึง ลูกเล็กเด็กแดง ต่างก็มีความกระตือรืร้น อบอุ่นใจกันทั้งนั้น

๓. ตลอด , โดยตลอด
( แสดงการกระทำตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ขาดตอน ,  แสดงภาวะ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เปลี่ยนแปลง )

  • 干活儿一直很卖力 。
    [gàn huó er yīzhí hěn màilì.] ทำงานแบบทุ่มเท (กำลัง) มาโดยตลอด
  • 雨一直下了一天一夜 。
    [yǔ yīzhí xiàle yītiān yīyè.] ฝน ตก ตลอด ทั้งวันทั้งคืน

……………….

จะเห็นได้ว่า 一 向 VS 一 直 มีความต่าง และ ความที่คล้ายๆกันมากความที่คล้ายๆกันมากคือ ข้อ ๓

一 向 แต่ไหนแต่ไร ( แสดง อดีต ถึง ปัจจุบัน )
一 直 ตลอด , มาโดยตลอด ( แสดงถึงการกระทำตั้งแต่ต้นจนจบ / ภาวะ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เปลี่ยนเเปลง )

คลายสงสัย และ เข้าใจขึ้น ไหมคะ…….

เฟสบุ๊คครูจู สอนภาษาจีนกลาง

การใช้ 着 zhe เจอ และ zháo เจ๋าร์

การใช้ 着

ภาษาจีน ครั้งละคำ…. ครั้งนี้ขอเสนอคำ 着

着 zhe เจอ และ zháo เจ๋าร์  (zhe เจอ ..อ่านออกเสียงพยางค์เบา นะคะ)
* คำนี้ อ่านได้หลายเสียง ความหมายก็ต่างกัน ครั้งนี้ขอเสนอ 2 เสียง ที่มีความถี่ในการใช้สูงกว่า

1. 着 [zhe] เจอ ………อยู่ , …….ไว้ ( กริยา การกระทำ ซึ่งกำลังกระทำอยู่ … แสดงถึง ปัจจุบัน )

ตัวอย่าง……

1.1 โครงสร้าง….(กริยา) + 着 = กริยานี้กระทำอยู่

  • 他坐着 [tāzuòzhe] เขานั่งอยู่ (ตอนนี้เขานั่งอยู่ ไม่ได้ไปไหน )
  • 这本书,你拿着 [zhèběnshū, nǐnázhe] หนังสือเล่มนี้ คุณถือไว้นะ (ถือเอาไว้นะ อย่าเอาไปไหน)

1.2 โครงสร้าง…. (กริยา) + 着 + (กรรม) = กระทำ..สิ่งหนึ่ง ..อยู่

  • 我看着书 [wǒ kànzhe shū] ฉันอ่านหนังสืออยู่ ( ตอนนี้ฉันอ่านหนังสืออยู่นะ ไม่ได้ทำอย่างอื่น)

1.3 โครงสร้าง…. (กริยา) + 着 + (กริยา) + (กรรม) = กระทำสิ่งหนึ่ง และ กระทำอีกสิ่งหนึ่ง ในขณะเดียวกัน

  • 老师 …站着讲…课 [lǎoshī… zhàn zhuó jiǎng… kè] คุณครู…ยืนบรรยาย… บทเรียนอยู่ (ยืนด้วย บรรยายด้วย)
  • 学生…坐着听…课 [xuéshēng… zuòzhe tīng… kè] นักเรียน…นั่งฟัง…บทเรียนอยู่ (นั่งด้วย ฟังด้วย)

************

2. 着 [zháo] เจ๋าร์ (ทำหน้าที่เป็นตัวบอกผลของ คำกริยาที่อยู่ข้างหน้ามัน)

คำแปล จะแปลคำบอกบรรลุผล ตามกริยาอาการของสิ่ง สิ่งนั้น ในภาษาไทย

ตัวอย่าง…..

2.1 โครงสร้าง ….. (กริยา) + 着 zháo

  • 睡着 [shuìzháo] นอน…แล้วบรรลุผลการนอน = นอนหลับ
  • 没睡着 [méi shuìzháo] นอน…แล้วไม่บรรลุผลในการนอน = นอนไม่หลับ

………………………..

2.2 找着 [zhǎozháo เจ่าร์เจ๋าร์] หา…. แล้วบรรลุผลในการหา = หาเจอ

  • 没找着 [méi zhǎozháo] หา… แล้วไม่บรรลุผลในการหา = หาไม่เจอ

********

เพิ่มเติม

结果补语 [jiéguǒ bǔyǔ] คำเสริมกริยาบอกผล ใช้

  • 找着 zhǎo​zháo หาเจอ
  • 没找着 méi zhǎozháo หาไม่เจอ

可能补语 [kěnéng bǔyǔ] คำเสริมกริยาบอกความเป็นไปได้ ใช้

  • 找得着 [zhǎo​de​zháo] หาเจอ
  • 找不着 [zhǎo​bu​zháo] หาไม่เจอ

อ่านต่อ การใช้คำ着(著) zhe, zhāo, zháo, zhuó

เจาะลึกการใช้ 得 ในภาษาจีนแบบมืออาชีพ

เรียนภาษาจีนกับครูจู

得 อ่านว่า… [de]เตอ / []เต๋อ / [děi]เต่ย

อ่านได้ สามเสียง มีความแตกต่างดังนี้ค่ะ

1 … 得 [de] เตอ (อ่านเสียงพยางค์เบา)

1.1 โครงสร้าง
(คำกริยา) + 得 = (กริยานี้ กระทำได้)
(คำกริยา) + 不得 = (กริยานี้ กระทำไม่ได้)

他去得,我也去得。
ทา ฉวี้ เตอ , หว่อ เหยี่ย ฉวี้ เตอ
เขาไปได้ ฉันก็ไปได้เหมือนกัน

我只一次见过他,记不得他叫什么名字?
หว่อ จื่อ อี๋ ฉื้อ เจี้ยน กั้ว ทา , จี้ ปู้ เตอ ทา เจี้ยว เสิน เมอ หมิง จึ?
ฉันเจอเขาแค่ครั้งเดียว จำไม่ได้ว่า เขาชื่ออะไร

1.2 โครงสร้าง
(คำกริยา) + 得 + (บทเสริมกริยา)…….= (กริยานี้ กระทำได้ไหว)
(คำกริยา) + 不 + (บทเสริมกริยา)…….= (กริยานี้ กระทำไม่ไหว)

这张桌子小我一个人 搬 得 动。
เจ้อร์ จังร์ จัวร์ จึ เสี่ยว . หว่อ อี๋ เก้อ เยิ๋นร์ ปัน เตอ ต้ง
โต๊ะตัวนี้ เล็ก . ฉันคนเดียว ย้ายได้ / ย้ายไหว

这张桌子很大他一个人 搬 不 动。
เจ้อร์ จังร์ จัวร์ จึ เหิ่น ต้า . ทา อี๋ เก้อ เยิ๋นร์ ปัน ปู๋ ต้ง
โต๊ะตัวนี้ใหญ่มาก .เขาคนเดียว ย้ายไม่ไหว / ย้ายไม่ได้

这张桌子很大要五六个人才 搬 得 动。
เจ้อร์ จังร์ จัวร์ จึ เหิ่น ต้า เย่า อู่ หลิ้ว เก้อ เยิ๋นร์ ไฉ ปัน เตอ ต้ง
โต๊ะตัวนี้ใหญ่มาก ต้อง 5-6 คน จึงจะ ย้ายไหว / ย้ายได้

这张桌子很小我一个人哪能 搬 不 动。
เจ้อร์ จังร์ จัวร์ จึ เหิ่น เสี่ยว หว่อ อี๋ เก้อ เยิ๋นร์ หน่า เนิ๋ง ปัน ปู๋ ต้ง
โต๊ะตัวนี้ เล็กมาก ฉันคนเดียว จะยกไม่ไหว ได้อย่างไรกัน =(ยกไหว)

1.3 จะทำหน้าที่เป็นคำช่วยเสริมโครงสร้างประโยค ใช้วางหลังคำกริยา(หรือคำคุณศัพท์) เพื่อเชื่อมคำกริยา(หรือคำคุณศัพท์) กับส่วนเสริมกริยา โดยทั่วไปมักใช้อธิบายรายละเอียดลักษณะอาการ / การกระทำ

โครงสร้าง…..
(คำกริยา)……….+ 得 + ….(บอกผลของ อาการ การกระทำ)
(คำคุณศัพท์ )….+ 得 + ….(บอกผลของ อาการ การกระทำ)

跑得快 …….. เผ่า เตอ ไขว้ …….วิ่งได้เร็ว
(บอกผลของการ วิ่ง…. ว่าวิ่งได้เร็ว )…. (นะจ๊ะจะบอกให้)

跑得不快…..เผ่า เตอ ปู้ ไขว้….. วิ่งได้ ไม่เร็ว
(บอกผลของการ วิ่ง…. ว่า ได้ไม่เร็ว)….. (นะนะ อย่ามาว่ากัน อิอิ)

唱得好 ……….ฉั้งร์ เตอ ห่าว……..ร้องได้ดี (唱 ร้อง..เพลง)
(บอกผลของการร้องเพลง… ว่าร้อง ได้ดี )…. (ชมกันเข้าไป)

唱得不好….. ฉั้งร์ เตอ ปู้ ห่าว …. ร้องได้ไม่ดี
(บอกผลของการร้องเพลง… ว่าร้อง ได้ไม่ดี…….(เอาซะเล๊ย )

今天天气 热 得 很。
จิน เทียน เทียน ฉี้ เย่อร์ เตอ เหิ่น
วันนี้อากาศ ร้อน มาก

Continue reading

เรียนภาษาจีนกับครูจู : 就 vs 才

เรียนภาษาจีนกับครูจู

วิธีใช้ 就 vs 才

就 จิ้ว vs 才 ไฉ ยังมีลักษณะการใช้ ที่ต่างออกไปอีกบ้าง
ครั้งนี้ เสนอการใช้ แบบพื้นๆ เข้าใจง๊ายง่าย ค่ะ….
ตัวอย่าง………………..

就 จิ้ว ก็…………แล้ว
แสดงถึง….. เร็ว….กว่าเวลาปกติที่ปฏิบัติโดยทั่วไป
หรือ เร็ว…กว่าเวลาที่นัดกันไว้

学校上午八点半上课,Zhang lipan 上午七点就到学校了。

เสวีย เสี้ยว สั้งร์ อู่ ปา เตี่ยน ปั้น สั้งร์ เข้อ , Zhang lipan สั้งร์ อู่ ชี เตี่ยน จิ้ว เต้า เสวีย เสี้ยว เลอ
โรงเรียน เข้าเรียนตอนเช้าแปดโมงครึ่ง , Zhang lipan เช้าเจ็ดโมง ก็ มาถึงโรงเรียน แล้ว
( แปดโมงครึ่ง เป็นเวลาปกติโทยทั่วไปที่โรงเรียนเข้าเรียน มาถึงเจ็ดโมง ถือว่ามา เร็ว กว่าเวลา)

公司上午十点开会,林经理上午九点就先来到了。

กง ซือ สั้งร์ อู่ สือร์ เตี่ยน ไค หุ้ย , หลิน จิง หลี่ สั้งร์ อู่ จิ่ว เตี่ยน จิ้ว เซียน ไหล เต้า เลอ
บริษัทเปิดประชุมเช้าสิบโมง , ผู้จัดการหลิน เช้าเก้าโมง ก็ มาถึงก่อน แล้ว
( นัดสิบโมง มาถึง เก้าโมง ถือว่า..มาเร็ว…กว่าเวลาที่นัด )

……………………………………………………..

才 ไฉ ค่อย……../ เพิ่งจะ…….
แสดงถึง….. ช้า….กว่าเวลาปกติที่ปฏิบัติโดยทั่วไป
หรือ ช้า…กว่าเวลาที่นัดกันไว้

学校上午八点半上课,李东 上午九点才到学校。

เสวีย เสี้ยว สั้งร์ อู่ ปา เตี่ยน ปั้น สั้งร์ เข้อ , หลี่ ตง สั้งร์ อู่ จิ่ว เตี่ยน ไฉ เต้า เสวีย เสี้ยว
โรงเรียน เข้าเรียนตอนเช้าแปดโมงครึ่ง , หลี่ ตง เช้าเก้าโมง ค่อย มาถึงโรงเรียน
( แปดโมงครึ่ง เป็นเวลาปกติโทยทั่วไปที่โรงเรียนเข้าเรียน มาถึงเก้าโมง ถือว่ามา ช้า กว่าเวลา)

公司上午十点开会,他上午十点半才到。

กง ซือ สั้งร์ อู่ สือร์ เตี่ยน ไค หุ้ย , ทา สั้งร์ อู่ สือร์ เตี่ยน ปั้น ไฉ เต้า
บริษัทเปิดประชุมเช้าสิบโมง , เขา เช้าสิบโมงครึ่ง เพิ่งมาถึง
( นัดสิบโมง มาถึง สิบโมงครึ่ง ถือว่า..มาช้า…กว่าเวลาที่นัด )