ภาษาจีนทั่วไป : อักษรจีนกับคริสต์ศาสนา

อักษรจีน ท้องฟ้า
  • 天 [tiān] มาจากสองคำผสมกัน คือคำว่า 一[yī] หมายถึง เลข1 และคำว่า 大 [dà] หมายถึง ใหญ่ พอเอามารวมกันก็จะได้คำว่า 天 [tiān] ซึ่งก็แปลได้ว่า มีหนึ่งเดียวที่ยิ่งใหญ่บน สวรรค์เราก็เลยรู้ว่า คนจีนสมัยก่อน เค้าเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น และเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
  • 罪 [zuì] หมายถึง ความบาป สิ่งเลวร้ายที่เกิดจากการเลือกในสิ่งที่ผิดของมนุษย์ 罪 [zuì] มาจากคำสองคำผสมกัน คือคำว่า 四 [sì] หมายถึง เลข 4 และคำว่า 非 [fēi] หมายถึง ไม่ถูกต้อง พอมารวมกัน ก็กลายเป็น 罪 ก็คือบาปที่เราทำทั้ง 4 ทางคือ ตา ปาก มือ ใจ
  • 船 [chuán] หมายถึง เรือใหญ่ มีอักษรสามตัวผสมกันคือ 舟 [zhōu] หมายถึง เรือเล็ก 八 [bā] หมายถึง เลข 8 และ 口 [kǒu] หมายถึง ปาก …ทราบมั้ยว่าประวัติศาสตร์ของจีนยาวนานพอๆกับประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ซึ่งพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งมนุษย์เราทำบาปมหันต์ พระเจ้าจึงทรงลงโทษโดยการให้น้ำท่วมโลก แต่พระเจ้าก็ยังให้โอกาสมนุษย์ พระองค์ทรงให้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าโนอาห์ต่อเรือใหญ่ และให้ประกาศกับคนในเวลานั้นให้กลับมาหาพระเจ้า ขออภัยโทษจากพระองค์ และให้ขึ้นไปในเรือ แต่ตอนนั้นไม่มีใครฟังโนอาห์เลย นอกจากครอบครัวของโนอาห์ซึ่งมีกันอยู่ 8 คน เรื่องราวของเรือโนอาห์ไม่เพียงแต่บึนทึกในประวัติศาสตร์จีนเท่านั้น แต่ยังมีบันทึกใน 272 อารยธรรมทั่วโลกอีกด้วย แล้วในปัจจุบัน ก็ได้มีการค้นพบซากของเรือลำนี้ที่ระดับสูงกว่าน้ำทะเล 14,000 ฟุต ที่ช่องแคบอะฮอล่าห์ ภูเขาอารารัต ประเทศตุรกี คนจีนแต่ก่อนเค้าไม่เรียกว่า 8 คน แต่เค้าจะเรียกว่า 8 ปาก ดังนั้น 8 ปาก จึงเท่ากับแปดคนนั่นเองนะ
  • 義 (义) [yì] หมายถึง ความชอบธรรม มาจากสองคำผสมกัน คือคำว่า 羊 [yáng] หมายถึง แกะ หรือ แพะ และอีกคำนึงคือ 我 [wǒ] หมายถึง ฉัน แล้วแกะกับแพะมันเกี่ยวอะไรกะฉัน เอ้อ…นั่นหน่ะสิ …เคยได้ยินคำว่า แพะรับบาปมั้ย ถ้าเราได้ศึกษาในเรื่องนี้ก็จะรู้ว่าความคิดนี้อยู่ในอารยธรรมของหลายชนชาติอีกเช่น เดียวกัน อย่างของฝรั่งก็มีคำว่า “scapegoat” คนจีนเราก็มีคำว่า “ต้ายจุ้ยกาวหยาง” ก็หมายถึง แพะรับบาปเหมือนกันหล่ะ แล้วแพะรับบาปหมายถึง อะไรหล่ะ.. ก็หมายถึง เราสมควรโดนลงโทษ แต่มีอีกคนมารับแทนเรา ดังนั้น คำว่าอี้ซึ่งหมายถึง ความชอบธรรมนั้น ทำให้รู้ว่าคนจีนมีความคิดที่ว่า ถ้าฉันอยากเป็นคนชอบธรรม จะต้องมีแพะอยู่บนตัวฉันเท่านั้น ก็แปลได้อีกว่า ถ้าเราทำบาป จะต้องมีบางสิ่งมารับโทษแทนเรา แล้วใครหล่ะจะมารับโทษแทนเรา…คนๆ นั้นก็คือพระเยซูคริสต์

ศัพท์เพิ่มเติม

  • 天主 tiānzhǔ พระเจ้า

ภาษาจีนทั่วไป : อักษรจีนกับความบาป

เนื้อภาษาจีน

肉 ในภาษาจีน

อักษรจีนกับความบาป
อักษรจีนกับความบาป

รูปภาพจาก https://www.96rangjai.com/konkinkon

肉 [ròu] ก็คือเนื้อสัตว์ สัตว์ เกิดมาชดใช้กรรม ทำไมต้องกินเนื้อสัตว์ที่มีบาปโดยไม่คาดคิด เราก็ไปแปดเปื้อนบาปด้วย กระนั้นยังทอนบุญกุศลของเราที่มีอยู่ให้ลดน้อยลง ไม่มีทางได้กินฟรีหรอก กินเนื้อเขาไปทุกชิ้น ก็ต้องจ่ายบุญกุศลไปส่วนหนึ่ง มีคำกล่าวว่า “เอาเปรียบคนอื่นไปส่วนหนึ่ง ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปส่วนหนึ่ง”

คำศัพท์เพิ่มเติม

  • 肉 [ròu] เนื้อสัตว์
  • 肉体 ròutǐ ร่างกายเนื้อหนัง
  • 肉丁 ròudīng เนื้อที่หั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยม
  • 肉丸 ròuwán ลูกชิ้นเนื้อ
  • 肉冠 ròuguān หงอนของสัตว์
  • 牛肉 niúròu เนื้อวัว
  • 羊肉 yángròu เนื้อแพะ
  • 猪肉 zhūròu เนื้อหมู
  • 肌肉 jīròu กล้ามเนื้อ
  • 骨肉 gǔròu เลือดเนื้อเชื้อไข

ศัพท์ภาษาจีน คัมภีร์เต๋า

เต๋า ภาษาจีน

คัมภีร์ “ไท่สั้งเหล่าจฺวินซฺวอฉางชิงจิ้งจิง” 《太上老君说常清静经》

เป็นคัมภีร์ที่สำคัญคัมภีร์หนึ่งของศาสนาเต๋า เป็นคัมภีร์ที่อธิบายถึงสภาวะของเต๋าและสรรพสิ่ง คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ของศาสนาเต๋านิกาย “เจิ้งอี” 《正一》เป็นคำสอนของไท่สั้งเหล่าจฺวิน 《太上老君说常清静经》

ไท้เสียงเหล่ากุง   ไท้ซังเหล่าจวิน :จีนกลาง   เจ้าสำนักศาสดาเต๋า อาจารย์ของเหล่าโป๊ยเซียนนั้น เดิมแซ่ลี้   李   ชื่อยื้อ   耳   มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์โจว   周朝     เมื่อประมาณ 4 พันกว่าปีก่อน   เกิดที่หมู่บ้านล่าย   瀨鄉   อำเภอขู่   苦縣   แคว้นฉู่   楚國  หรือ เล่าจื้อ   Lao tze   เป็นศาสดาของศาสนาเต๋า ซึ่งได้หล่อหลอมวิถีแห่งชีวิตและอัธยาศัยชาวจีนกว่า 2000 ปีมาแล้ว

  • 道 [dào]  เต๋า (ทาง)
  • 悟 [wù] รู้แจ้ง
  • 无 [wú] ไร้
  • 生 [shēng] เกิด
  • 寂 [jì] สงบ
  • 空 [kōng] ว่าง
  • 欲 [yù] ตัณหา
  • 静 [jìng] สงบ
  • 真 [zhēn] จริง
  • 性 [xìng] จิตแท้
  • 自性 [zì xìng] จิตเดิมแท้
  • 悟性 [wùxìng] การบรรลุธรรม หรือรู้แจ้งสภาวะความจริงสูงสุด
  • 空性 [kōng xìng] หลักสุญญตา, ความว่างปล่า
  • 得道 [dédào] บรรลุเต๋า (วิถีที่แท้จริง)
  • 清 [qīng] สะอาด
  • 清静 [qīng​jìng] สะอาดและสงบ
  • 传 [chuán] ถ่ายทอด
  • 圣道   [shèngdào] อริยมรรค (ทางศักดิ์สิทธิ์)
  • 圣   [shèng] ศักดิ์สิทธิ์
  • 众圣 [zhòngshèng] ทวยเทพ
  • 爭 [zhēng] วิวาท
  • 上士 [shàngshì] บุคคลระดับสูง, บัณฑิต, เบื้องบน
  • 下士 [xiàshì] บุคคลระดับล่าง, คนพาล, เบื้องล่าง
  • 德 [dé] คุณธรรม
  • 道德 [dào​dé] คุณธรรม
  • 明 [míng] แจ้งกระจ่าง
  • 无形 [wúxíng] ไร้รูป
  • 众生 [zhòngshēng] สรรพชีวิต
  • 观空亦空   [guānkōng yìkōng] มนสิการความว่างคือว่าง
  • 空无所空   [kōngwú suǒkōng] ความว่างหามีไม่
  • 所空既无   [suǒkōng jìwú] ความว่างก็คือไร้
  • 无无亦无   [wúwú yìwú] ไร้ไร้ก็คือไร้
  • 无无既无   [wúwú jìwú] ไร้ไร้ที่สุดแล้วก็คือไร้
  • 湛然常寂   [zhànrán chángjì] ย่อมเข้าถึงความสงบ
  • 寂无所寂   [jìwú suǒjì] สงบไร้สงบ
  • 欲豈能生   [yùqǐ néngshēng] ตัณหาจะเกิดได้ไฉน
  • 欲既不生   [yùjì bùshēng] เมื่อตัณหาไม่เกิด
  • 即是真静   [jíshì zhēnjìng] จึงเป็นความนิ่งที่แท้จริง
  • 真常应物   [zhēncháng yìngwù] จึงควรแก่การงาน
  • 真常得性   [zhēncháng déxìng] เข้าถึงจิตแท้
  • 常应常静   [chángyīng chángjìng] ควรแก่การงานและสงบมาก
  • 常清静矣   [chángqīng jìngyǐ] สะอาดและสงบแล้ว
  • 如此清静   เมื่อสะอาดและสงบเช่นนี้
  • 渐入真道   [jiànrù zhēndào] ย่อมเข้าถึงเต๋าที่แท้จริง
  • 既入真道   เหตุที่เข้าถึงเต๋า
  • 名为得道   จึงได้ชื่อว่าบรรลุเต๋า
  • 虽名得道   ที่ชื่อว่าบรรลุเต๋า
  • 实无所得   แท้จริงจะมีการบรรลุก็หาไม่
  • 为化众生   [wèihuà zhòngshēng] เพื่อสั่งสอนสรรพชีวิต
  • 名为得道   [míngwéi dédào] จึงได้บัญญติว่า “บรรลุเต๋า”
  • 能悟之者   ชนผู้รู้แจ้ง
  • 可传圣道   [kěchuán shèngdào] จักสามารถถ่ายทอดอริยมรรค
  • 上士无爭   [shàngshì wúzhēng] บัณฑิตไร้วิวาท
  • 下士好爭   [xiàshì hǎozhēng] คนพาลมักวิวาท
  • 上德不德   [shàngdé bùdé] ผู้ทรงคุณธรรมไร้คุณธรรม
  • 下德执德   ผู้ไร้คุณธรรมยึดถือธรรม
  • 执著之者   ผู้ยึดมั่นนั้น
  • 不明道德  [bùmíng dàodé] ไม่แจ้งในคุณธรรม
  • 众生所以不得真道者   สรรพชีวิตไม่แจ้งในเต๋าที่แท้จริง
  • 仙人葛翁曰   เซียนผู้เฒ่าแซ่ “เก๋อ”กล่าวว่า
  • 吾得真道   ข้าบรรลุเต๋า
  • 曾诵此经万遍   เหตุเพราะสวดสาธยายคัมภีร์นี้หมื่นจบ
  • 此经是天人所習   คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ของเทพ
  • 不传下士   ไม่ถ่ายทอดสู่เบื้องล่าง
  • 吾昔受之于东华帝君   ข้าได้รับถ่ายทอดมาจาก “ตงหัวตี้จฺวิน”
  • 东华帝君受之于金阙帝君   “ตงหัวตี้จฺวิน”ได้รับมาจาก “จินเชฺว่ตี้จฺวิน”
  • 金阙帝君受之于西王母   “จินเชฺว่ตี้จฺวิน”ได้รับมากจาก “ซีหวางหมู่”
  • 西王一线乃口口相传   ถ่ายทอดกันปากต่อปาก
  • 不记文字   ไม่มีการจดบันทึก
  • 吾今于世   บัดนี้ข้า
  • 书而录之   ได้บันทึกไว้
  • 上士悟之   บุคคลระดับสูง
  • 升为天仙   จักบรรลุเป็นเซียน
  • 中士修之  บุคคลระดับกลาง
  • 南宮列官   จักได้เป็นขุนนางที่ตำหนักใต้
  • 下士得之   บุคคลระดับล่าง
  • 在世长年   เมื่อสิ้นชาตินี้
  • 遊行三界   จักท่องเที่ยวสามภพ
  • 升入金门   จึงเข้าสู่ประตูทอง
  • 左玄真人曰   “จฺว้อเสฺวียนเจินเหริน”กล่าวว่า
  • 学道之士   บัณฑิตผู้ศึกษาเต๋า
  • 持诵此经者   หมั่นสวดสาธยายคัมภีร์นี้
  • 即得十天善神   จักมีเทพทั้งสิบชั้นฟ้า
  • 拥护其身   คอยปกปักษ์อารักษ์
  • 然后玉符保神   จากนั้นยันต์หยกคุ้มจิต
  • 金液炼形   ฝึกขั้น จินเย่
  • 形神俱妙   ดวงจิตบรรลุ
  • 与道合真   เป็นหนึ่งกับเต๋า
  • 正乙真人曰   “เจิ้งอี่เจินเหริน”กล่าวว่า   :
  • 人家有此经   ชนใดมีคัมภีร์นี้
  • 悟解之者   จักเป็นผู้รู้แจ้ง
  • 灾障不干   ภยันตรายไม่อาจแผ้วพาน
  • 众圣护门   [zhòngshèng hùmén] ทวยเทพคุ้มครอง
  • 神升上界   จิตสู่เบื้องบน
  • 朝拜高真   กราบไหว้เป็นจริง
  • 功滿德就   กุศลบริบูรณ์
  • 相感帝君   ได้พบ “ตี้จฺวิน”
  • 诵持不退   สวดสาธยายมิรู้คลาย
  • 身腾紫云   กายขี่เมฆม่วง
  • 大道无形   เต๋าไร้รูป
  • 生育天地   กำเนิดฟ้าดิน
  • 大道无情   เต๋าไร้จิต
  • 运行曰月   ขับเคลื่อนสุริยันจันทรา
  • 大道无名   เต๋าไร้นาม
  • 长养万物   หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง
  • 吾不知其名強名曰道   ข้าไม่รู้จะเรียกสิ่งใด จึงขนานนามว่า “เต๋า”
  • 夫 道者   อันเต๋านั้น   :
  • 有清有浊   มีสะอาด, มีสกปรก
  • 有动有静   มีเคลื่อน, มีนิ่ง
  • 天清地浊   ฟ้าสะอาด, ดินสกปรก
  • 天动地静   ฟ้าเคลื่อน, ดินนิ่ง
  • 男清女浊   ชายสะอาด, หญิงสกปรก
  • 男动女静   ชายเคลื่อน, หญิงนิ่ง
  • 降本流末   ไหลเวียนเปลี่ยนผัน
  • 而生万物   ก่อกำเนิดสรรพสิ่ง
  • 清者浊之源   สะอาดมีสกปรกเป็นราก
  • 动者静之基   เคลื่อนมีนิ่งเป็นฐาน
  • 人能常清静   มนุษย์สามารถสะอาดและนิ่ง
  • 天地悉皆歸   ฟ้าดินรวมกลับคืน

วรรคนี้นั้นท่านอธิบายของสภาวะธาตุทั้ง 2 คือ “หยาง” 《阳》 และ “อิน” 《阴》 ธาตุทั้ง 2 นี้ ไม่ใช่เต๋า หาก แต่เต๋าได้ให้กำเนิดธาตุทั้ง 2 ขึ้นโดยแยกออกมาจากเต๋า โดยธรรมชาติของธาตุทั้ง 2 นั้น ธาตุหยางมีลักษณะเคลื่อนไหว, แข็งกร้าว, หยาบ, ร้อน, ลอย, สะอาด ฯลฯ ส่วนธาตุอินมีลักษณะนิ่ง, อ่อน, ละเอียด,เย็น,จม, สกปรก ฯลฯ ธาตุทั้ง 2 นี้มีลักษณะตรงกันข้าม   ปฏิปักขธรรม   แม้จะอยู่ตรงกันข้ามแต่ไม่อาจแยกออกจากกัน เมื่อธาตุทั้ง 2 ทำปฏิกิริยา เชิงสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ต่อกันและก่อให้เกิดสรรพสิ่ง โดยภาวะเชิงสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ดังกล่าวนี้มีความหลายนัยยะต่างๆ จึงก่อให้เกิดความหลากหลายในสรรพสิ่ง   ทั้งที่มีและไม่มีชีวิต   ทั้งนี้ที่กล่าวว่าชายสะอาดหญิงสกปรกนั้น ไม่ใช่การเหยียดหยามทางเพศ หากแต่เป็นการอธิบายถึงลักษณะของธาตุทั้ง 2 โดยคำว่า “ชาย”นั้นหมายถึงลักษณะแข็งกร้าวของธาตุหยางซึ่งมีลักษณะเหมือนเพศชาย และคำว่า “หญิง”นั้นหมายถึงลักษณะอ่อนโยนของธาตุอินซึ่งมีลักษณะเหมือนเพศหญิง ต่อมาท่านอธิบายว่า หากจิตของมนุษย์สะอาด   หยาง   และนิ่ง   อิน   โดยวลีที่ว่า “ฟ้า   หยาง   ดิน   อิน   รวมกลับคืน” หมายถึง เมื่อหยางและอินรวมเป็นหนึ่ง ก็จะคืนสู่สภาวะเดิมคือ “เต๋า”ซึ่งก็หมายถึงการหลุดพ้นออกจากวัฏฏะสงสารนั่นเอง

  • 夫人神好清   ใจมนุษย์นั้นสะอาด
  • 而心扰之   แต่กลับวุ่นวาย
  • 人心好静   ใจมนุษย์สงบ
  • 而欲牵之   แต่ตัณหาชักพา
  • 常能遣其欲   สามารถกำจัดตัณหาทั้งปวงได้
  • 而心自静   ใจย่อมสงบ
  • 澄其心   เมื่อใจสะอาด
  • 而神自清   จิตย่อมสะอาด
  • 自然六欲不生   เมื่อนั้นตัณหาย่อมไม่เกิด
  • 三毒消灭   พิษทั้ง 3 ย่อมสูญสลาย
  • 所以不能者   ชนผู้ไม่สามารถ
  • 为心未澄   ชำระจิตให้สะอาด
  • 欲未遣也   แสดงว่าตัณหายังไม่ถูกกำจัด
    วรรคนี้ท่านอธิบายว่าแต่เดิมจิต มนุษย์นั้นเป็นหนึ่งเดียวกับเต๋า กล่าวคือสะอาด   หยาง   และ สงบ   นิ่ง   รวมเป็นหนึ่ง แต่ ถูกตัณหาชักพาให้วุ่นวาย และไม่สงบ กล่าวคือ แยกเป็นเป็นหยางและอิน   แต่ไม่แยกออกจากกันเพราะแยกออกจากกันไม่ได้   การพ้นจากวัฏฏะนั้นไม่ใช่การที่เราจะทำให้ใจสะอาดและสงบ หากแต่อยู่ที่การกำจัดตัณหา เมื่อสิ้นตัณหา ธรรมชาติของจิต ย่อมจักหวนคืนสู่สภาพเดิมคือสะอาดและสงบโดยธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องทำอะไร และเมื่อนั้นพิษทั้ง 3 ย่อมสูญสลายไปเอง   พิษทั้ง 3 หมายถึงอกุศลเหตุ 3 คือ โลภะ, โทสะ และโมหะ
  • 能遣之者   ชนผู้สามารถกำจัดตัณหาได้
  • 內观其心   เมื่อมนสิการภายใน
  • 心无其心   ย่อมแจ้งว่าไร้จิต
  • 外观其形   เมื่อมนสิการภายนอก
  • 形无其形   ย่อมแจ้งว่าไร้รูป
  • 远观其物   เมื่อมนสิการสรรพสิ่ง
  • 物无其物   ย่อมแจ้งว่าไร้ซึ่งสรรพสิ่ง
  • 三者既无   เมื่อแจ้งว่าสรรพสิ่งไร้
  • 唯见于空   ดังนี้แล ชื่อว่าแจ้งในสุญญตา
    บทว่า “ชนผู้สามารถกำจัดตัณหาได้ เมื่อมนสิการภายใน ย่อมแจ้งว่าไร้จิต เมื่อมนสิการภายนอก ย่อมแจ้งว่าไร้รูป เมื่อมนสิการสรรพสิ่ง ย่อมแจ้งว่าไร้ซึ่งสรรพสิ่ง เมื่อแจ้งว่าสรรพสิ่งไร้ดังนี้แล ชื่อว่าแจ้งในสุญญตา” ท่านหมายเอา เมื่อประหารแล้วซึ่งตัณหาได้ เมื่อพิจารณาลงในสภาวธรรม ย่อมรู้ชัดว่า รูปและนาม   จิต   ไม่มีอยู่จริง   ไร้   เป็นเพียงมายาภาพที่คนที่มีอุปาทานสำคัญผิดไปว่ามีอยู่จริง เมื่อว่ารูปและนามไม่มีอยู่จริงแล้วย่อมไม่มีซึ่งสรรพสิ่ง เหตุใดถึงกล่าวว่ารูปและนามไม่มีอยู่จริง ดังที่กล่าวแล้วว่าไม่มีในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าสิ่งไรๆก็ไม่มี หรือขาดสูญ หากแต่ไม่มีจากอัตตาที่จะดำรงอยู่ได้ เป็นเพียงอาศัยเหตุปัจจัยประชุมกันแล้วบังเกิดขึ้น เมื่อสิ้นปัจจัยแล้วย่อมแตกดับไป หาได้มีสิ่งใดเป็นเที่ยงแท้ยั่งยืน และยิ่งไม่มีสิ่งใดที่เป็นเกิดขึ้นตั้งอยู่เป็นอิสระธรรม คือความเป็นใหญ่โดยไม่ต้องอาศัยเหตุปัจจัย และเหตุปัจจัยทั้งปวงต่างก็เกิดขึ้น, ตั้งอยู่,ดับไป หมุนเวียนเปลี่ยนผันไป เมื่อรู้ชัดดังนี้จึงชื่อว่า “สุญญตา”   ความว่าง   ในส่วนนี้ท่านอธิบายแบบเหตุไปหาผล และผลไปหาเหตุ กล่าวคือ เมื่อกำจัดสิ้นซึ่งตัณหา   เหตุ   ย่อมแจ้งในสุญญตา   ผล   และ ที่แจ้งในสุญญตา   ผล   เพราะ กำจัดแล้วซึ่งตัณหา   เหตุ
  • 观空亦空   มนสิการความว่างคือว่าง
  • 空无所空   ความว่างหามีไม่
  • 所空既无   ความว่างก็คือไร้
  • 无无亦无   ไร้ไร้ก็คือไร้
  • 无无既无   ไร้ไร้ที่สุดแล้วก็คือไร้
  • 湛然常寂   ย่อมเข้าถึงความสงบ
  • 寂无所寂   สงบไร้สงบ
  • 欲豈能生   ตัณหาจะเกิดได้ไฉน
  • 欲既不生   เมื่อตัณหาไม่เกิด
  • 即是真静   จึงเป็นความนิ่งที่แท้จริง
  • 真常應物   จึงควรแก่การงาน
  • 真常得性   เข้าถึงจิตแท้
  • 常應常静   ควรแก่การงานและสงบมาก
  • 常清静矣   สะอาดและสงบแล้ว
  • 如此清静   เมื่อสะอาดและสงบเช่นนี้
  • 渐入真道   ย่อมเข้าถึงเต๋าที่แท้จริง
  • 既入真道   เหตุที่เข้าถึงเต๋า
  • 名为得道   จึงได้ชื่อว่าบรรลุเต๋า
  • 虽名得道   ที่ชื่อว่าบรรลุเต๋า
  • 实无所得   แท้จริงจะมีการบรรลุก็หาไม่
  • 为化众生   เพื่อสั่งสอนสรรพชีวิต
  • 名为得道   จึงได้บัญญัติว่า “บรรลุเต๋า”
  • 能悟之者   ชนผู้รู้แจ้ง
  • 可传圣道   จักสามารถถ่ายทอดอริยมรรค  。

บทว่า “มนสิการว่าความว่างคือว่าง” ท่านอธิบายว่า ภาวะที่มนสิการแจ้งว่าสรรพสิ่งล้วนเป็นความว่างนั้น ก็เป็นความว่าง กล่าวคือจะได้มีอัตตา   ตัวตน   ที่จะพิจารณาก็หาไม่ ทั้งนี้เพราะมีบางคนคิดว่า เมื่อมีการแจ้งภาวะสุญญตา ย่อมมีตัวตนที่รู้แจ้งในสุญญตา ซึ่งแท้ที่จริง สุญญตาคือความว่าง เมื่อว่างจากตัวตนย่อมไม่มีการดำรงอยู่ ท่านจึงแสดงว่า “ความว่าง   สุญญตา   คือความไร้   ไม่มี  ” เมื่อไม่มีแล้วจึงไม่มีความว่างให้รู้แจ้ง, ไม่มีผู้รู้แจ้ง, ไม่มีภาวะแห่งการรู้แจ้ง ด้วยนัยยะดังกล่าวนี้จึงไม่มีซึ่งความสงบ ไม่มีทั้งรูปและจิต   นาม   ย่อมไม่มีตัณหาให้เกิด จึงเป็นความนิ่งและสงบที่แท้จริง เป็นความนิ่งและสงบ ที่ไม่ได้นิ่งและสงบจากอุปาทาน, อัตตา และสิ่งสมมุติ เป็นความสงบที่แท้จริงพ้นแล้วจากเหตุปัจจัยทั้งปวง ต่อมาท่านแสดงว่า “เหตุที่เข้าถึงเต๋า จึงได้ชื่อว่าบรรลุเต๋า แท้จริงจะมีการมีบรรลุก็หาไม่ เพื่อสั่งสอนสรรพชีวิต จึงได้บัญญัติว่าบรรลุเต๋า” ดังที่กล่าวเบื้องต้นว่า ธรรมทั้งปวง   ทั้งสังขตธรรมและอสังขตธรรม   คือความว่าง   สุญญตา   ดังนี้แล้วย่อมไร้แล้วซึ่งความว่างให้รู้แจ้ง, ไร้แล้วซึ่งผู้รู้แจ้ง, ไร้แล้วซึ่งภาวะแห่งการรู้แจ้ง แต่เพื่อสั่งสอนสรรพชีวิตจึงได้บัญญัติคำว่า “บรรลุเต๋า”   บรรลุธรรม   ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจต่อผู้ศึกษาธรรมด้วยเหตุผลทางด้านการสื่อสารและทำความ เข้าใจ

  • 上士无爭   บัณฑิตไร้วิวาท
  • 下士好爭   คนพาลมักวิวาท
  • 上德不德   ผู้ทรงคุณธรรมไร้คุณธรรม
  • 下德执德   ผู้ไร้คุณธรรมยึดถือธรรม
  • 执著之者   ผู้ยึดมั่นนั้น
  • 不明道德   ไม่แจ้งในคุณธรรม
    ธรรมชาติของบัณฑิต ย่อมเป็นผู้ให้ประโยชน์และเป็นมิตรต่อคนทุกฝ่าย ซึ่งตรงข้ามกับคนพาลที่เอาความคิด, ความเห็น, ความต้องการเป็นหลักจนนำไปสู่การวิวาท และความขัดแย้งนานาประการ ในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่การประหัตประหารทำลายซึ่งกันและกัน ด้วยเหตุนี้ท่านจึงแสดงว่า “บัณฑิตไร้วิวาท คนพาลมักวิวาท” ต่อมาท่านแสดงว่า “ผู้ทรงคุณธรรมไร้คุณธรรม ผู้ไร้คุณธรรมยึดถือธรรม ผู้ยึดมั่นนั้น ไม่แจ้งในคุณธรรม” ทังนี้เพราะเมื่อบัณฑิตพิจารณาธรรมทั้งปวงว่าเป็นสุญญตา ย่อมแจ้งชัดว่าไร้ซึ่งแก่นสารแห่งการยึดถือ ย่อมคลายความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง อุปมาดังชนผู้ข้ามทะเลแห่งทุกข์ ย่อมจักต้องอาศัยพาหนะหรือเรือแห่งธรรม และเมื่อถึงฝั่งแล้วย่อมจักต้องละทิ้งซึ่งเรือหรือธรรม ว่าหากยังยึดมั่นในธรรมย่อมจักไม่อาจขึ้นฝั่งคือการพ้นจากทะเลแห่งทุกข์ อนึ่งชนผู้ทรงคุณธรรมนั้น มีคุณธรรมเป็นปกติวิสัย จะยึดมั่นว่าตนเป็นผู้ทรงธรรม ตนจักประพฤติคุณธรรมก็หาไม่ ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ไร้คุณธรรม จะทำการไรไรก็อ้างคุณธรรม เน้นที่รูปแบบวิธีการปฏิบัติมากกว่าเนื้อหาสาระ มักคิดว่าตนเป็นคนดี ตนจักทำความดี และมักตั้งคำถามว่า เหตุใดทำดีแล้วไม่ได้ดี ซึ่งการตั้งคำถามลักษณะนี้ เป็นการทำดีเพื่อหวังผล เป็นการทำดีเพียงแค่เปลือก    ซึ่งต่างกับผู้ทรงคุณธรรม ที่ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และทำดีต่อไปแม้จะถูกทำร้าย และเอารัดเอาเปรียบ เพราะความดีคือการให้ ไม่ใช่การได้   เขาเหล่านั้นไม่รู้ว่าคุณธรรมที่แท้จริงเป็นอย่างไร จึงเป็นผู้ไร้คุณธรรมที่แท้จริง ดังที่ท่านแสดงว่า “ผู้ทรงคุณธรรมไร้คุณธรรม ผู้ไร้คุณธรรมยึดถือธรรม ผู้ยึดมั่นนั้น ไม่แจ้งในคุณธรรม”

 

  • 众生所以不得真道者   สรรพชีวิตไม่แจ้งในเต๋าที่แท้จริง
  • 为有妄心   จึงมีอุปาทาน
  • 既有妄心   เพราะมีอุปาทาน
  • 即惊其神   จึงมีความกลัว
  • 既惊其神   เมื่อมีความกลัว
  • 即著万物   จึงมีสรรพสิ่ง
  • 既著万物   เมื่อมีสรรพสิ่ง
  • 即生贪求   จึงมีความโลภ
  • 既生贪求   เมื่อมีความโลภ
  • 即是烦恼   ก็คือความทุกข์
  • 烦恼妄想   ความทุกข์, อุปาทาน
  • 忧苦身心   ทุกข์กายและใจ
  • 便遭浊辱   พบกับความสกปรกแลเหยียดหยาม
  • 流浪生死   เวียนว่ายเกิดตาย
  • 常沉苦海   จมอยู่ในทะเลทุกข์
  • 永失真道   สูญเสียเต๋าที่แท้จริง
  • 真常之道   เต๋าที่แท้จริงนั้น
  • 悟者自得   ผู้รู้แจ้งจักบรรลุได้เอง
  • 得悟道者   ผู้บรรลุเต๋านั้น
  • 常清静矣   บริสุทธิ์และสงบยิ่งนัก  !
    วรรคนี้ท่านอธิบายว่า สรรพชีวิตไม่แจ้งในเต๋าจึงเกิดอุปาทาน, ความกลัว ตลอดจนถึงการมีอยู่ของสรรพสิ่ง และการเวียนว่ายตายเกิดตามลำดับ ซึ่งคำว่า “จึงมีสรรพสิ่ง” นั้น ท่านหมายว่า เมื่อไม่แจ้งเต๋าจึงมีอุปาทาน เมื่อมีอุปาทานคือความสำคัญผิดว่ามีตัวตน จึงทำให้สำคัญผิดว่ามีสรรพสิ่ง   ตลอดจนถึงการมีอยู่ของสรรพชีวิต   ซึ่งแท้จริงแล้วหามีอยู่ไม่ เมื่อสำคัญผิดว่ามีจึงยึดมั่นถือมั่น, เกิดโลภ, โกรธ และหลง ด้วยเหตุนี้จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดมิรู้สิ้น จนต่อเมื่อรู้แจ้งในเต๋า   คือสภาวธรรมว่าว่างเปล่าหาอัตตาตัวตนมิได้   ก็จะพ้นจากอุปาทานทั้งปวง หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นความบริสุทธิ์   วิสุทธิ   และ สงบ   สันติ   ที่แท้จริง

ใน อวสานแห่งคัมภีร์ “ไท่สั้งเหล่าจฺวินซฺวอฉางชิงจิ้งจิง” 《太上老君说常清静经》 ได้ปรากฏซึ่งคำกล่าวของเทพปรมาจารย์ทั้ง 3 โดยหนึ่งในนั้นคือ “เก๋อเทียนซือ” 《葛天师》 ผู้รจนาคัมภีร์นี้ คำกล่าวของเทพปรมาจารย์ทั้ง 3 นั้น แสดงถึงผลานิสงส์แห่งการสวดสาธยายคัมภีร์นี้ ทั้งนี้ด้วยเหตุ 2 ประการคือ เพื่อให้คัมภีร์นี้ได้รับการเผยแพร่สืบทอดต่อไป และเมื่อผู้สวดสาธยายสวดไปมากๆก็จะมีการตรึกในอรรถและพยัญชนะ เมื่อนานเวลาผ่านไปนานขึ้นการสาธยายบ่อยก็ได้ความคิดและมุมมองที่ชัดเจนมาก ขึ้น และในบัณฑิตที่มีปัญญาย่อมจักบรรลุธรรมได้ในที่สุด โดย ในคำกล่าวของเทพปรมาจารย์ทั้ง 3 มีบางคำที่เป็นศัพท์เฉพาะทางในการปฏิบัติสมาธิของศาสนาเต๋าซึ่งคนที่ไม่เคย ศึกษาในด้านนี้อาจจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก
คัมภีร์ “ไท่สั้งเหล่าจฺวินซฺวอฉางชิงจิ้งจิง” 《太上老君说常清静经》 พร้อมทั้งอรรถาธิบายก็อวสานลงแต่เพียงนี้ ที่สุดนี้ขอสรรพชีวิตทั้งปวงจงเป็นผู้นิรทุกข์ พบกับสุขอันเกิดจากวิสุทธิและสันติภาวะ ตามนัยคัมภีร์ “ไท่สั้งเหล่าจฺวินซฺวอฉางชิงจิ้งจิง” 《太上老君说常清静经》นี้ด้วยกันทุกท่านเทอญ……….

อ้างอิงจาก : https://daosanqing.spaces.live.com

 

เพลงจีน: ดอกไม้ไฟเย็นง่าย / 烟花易冷 [周杰伦]

เรียนภาษาจีนจากเพลง

Composer: Jay Chou (周杰伦)
Lyricist: Jay Chou (周杰伦)
Album : The Era

繁华声 遁入空门 折煞了世人
ซุ้มเสียงแห่งความเจริญ หลบหนีเข้าสู่ประตูอันว่างเปล่า ตัดขาดซึ่งผู้คนบนโลก

梦偏冷 辗转一生 情债又几本
ความฝันอันหนาวเหน็บ ผ่านมาชั่วชีวิต ความรัก หนี้บุญคุณมากมายนัก

如你默认 生死枯等
หากว่าเจ้ายอมรับ รอคอยเป็นตายอย่างห่อเหี่ยว

枯等一圈又一圈的年轮
รอคอยอย่างห่อเหี่ยว ปีแล้วปีเล่า

浮图塔断了几层 断了谁的魂
สถูปเจดีย์หักลงสองสามชั้น ตัดขาดวิญญาณผู้ใด

痛直奔 一盏残灯 倾塌的山门
ความเจ็บปวดดำรงต่อไป โคมไฟผุเก่า ซุ้มประตูเอนเอียง

容我再等 历史转身
ให้ข้ารอคอยต่อไป ประวัติศาสตร์หมุนกลับ

等酒香醇 等你弹一曲古筝
รอสุราบ่มจนหอมได้ที่ รอคอยเธอบรรเลงกู่เจิงอีกสักเพลง

雨纷纷 旧故里草木深
ฝนพรำๆ ที่บ้านเก่าเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า

我听闻 你始终一个人
จากต้นจนจบ ฉันฟังเพียงเธอคนเดียว

斑驳的城门 盘踞着老树根
ประตูเมืองลายด่างดำ ยึดเกาะไปด้วยรากไม้เก่า

石板上回荡的是 再等
เสียงสะท้อนดังก้องจากแผ่นศิลา บอกให้รอคอยอีก

雨纷纷 旧故里草木深
ฝนพรำๆ ที่บ้านเก่าเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า

我听闻 你仍守着孤城
ฉันได้ยิน เธอยังคงเฝ้ารอในเมืองอันอ้างว้าง

城郊牧笛声 落在那座野村
เสียงขลุ่ยผิวจากชานเมือง ตกลงที่หมู่บ้านแห่งนั้น

缘分落地生根是 我们
พรหมลิขิตตกสู่พื้นแตกรากงอกขึ้นใหม่ คือพวกเรา

千年后 累世情深 还有谁在等
而青史 岂能不真 魏书洛阳城
如你在跟 前世过门
跟着红尘  跟随我 浪迹一生

雨纷纷 旧故里草木深
我听闻 你始终一个人
斑驳的城门 盘踞着老树根
石板上回荡的是 再等

雨纷纷 旧故里草木深
我听闻 你仍守着孤城
城 郊牧笛声 落在那座野村
缘分落地生根是 我们

缘分落地生根是 我们
伽蓝寺听雨声盼 永恒

คำศัพท์

  • 烟花 [yānhuā] ดอกไม้ไฟ
  • 易冷 [yìlěng] เย็นลงได้ง่าย
  • 繁华 [fánhuá] เจริญรุ่งเรือง
  • 空门 [kōngmén] พุทธศาสนา
  • 世人 [shìrén] คนธรรมดาสามัญ, ชาวโลก
  • 辗转 [zhǎnzhuǎn] ผ่านมาหลายมือหรือหลายสถานที่
  • 一生 [yīshēng] ชั่วชีวิต
  • 默认 [mòrèn] ยอมรับโดยปริยาย
  • 生死 [shēngsǐ] เป็นตาย
  • 年轮 [niánlún] วงล้ออายุ
  • 历史 [lìshǐ] ประวัติศาสตร์
  • 转身 [zhuǎnshēn] หมุนตัว
  • 故里 [gùlǐ] บ้านเกิด
  • 听闻 [tīngwén] ได้ยิน
  • 始终 [shǐzhōng] จากต้นจนจบ
  • 斑驳 [bānbó] การรวมสีต่างๆกัน
  • 城门 [chéngmén] ประตูเมือง
  • 盘踞 [pánjù] ยึดครองโดยพลการ
  • 石板 [shíbǎn] กระดานหิน/แผ่นหิน
  • 回荡 [huídàng] ดังก้อง
  • 城郊 [chéngjiāo] ชานเมือง
  • 缘分 [yuánfèn] พรมลิขิต
  • 落地生根 [luòdìshēnggēn] ตกพื้นงอกใหม่
  • 青春 [qīngchūn] หนุ่ม, ฤดูใบไม้ผลิ
  • 笑声 [xiàoshēng] เสียงหัวเราะ
  • 许多 [xǔduō] จำนวนมาก
  • 史册 [shǐcè] บันทึกประวัติศาสตร์
  • 温柔 [wēnróu] นุ่มนวลอ่อนหวาน
  • 下笔 [xiàbǐ] ลงมือเขียน
  • 人事 [rénshì] เรื่องราวของมนุษย์, เรื่องทางโลก
  • 是否 [shìfǒu] ใช่หรือไม่
  • 认真 [rènzhēn] จริงจัง
  • 累世 [lěishì] หลายยุคสมัย
  • 青史 [qīngshǐ] พงศาวดารประวัติศาสตร์
  • 岂能 [qǐnéng] ทำอย่างไรจึงจะเป็นไปได้
  • 洛阳 [LuòYáng] เมืองลั่วหยาง
  • 前世 [qiánshì] ชาติก่อน
  • 过门 [guòmén] แต่งงาน
  • 跟着 [gēnzhe] ตาม
  • 红尘 [hóngchén] โลกมนุษย์
  • 跟随 [gēnsuí] ติดตาม
  • 雨声 [yǔshēng] เสียงฝน
  • 永恒 [yǒnghéng] ชั่วนิรันดร์

เพลงจีน : คนล่าฝัน [追梦人]

เรียนภาษาจีนจากเพลง

让青春吹动了你的长发 让它牵引你的梦
不知不觉这城市的历史已记取了你的笑容

红红心中蓝蓝的天是个生命的开始
春雨不眠隔夜的你曾空独眠的日子

让青春娇艳的花朵绽开了深藏的红颜
飞去飞来的满天的飞絮是幻想你的笑脸

秋来春去红尘中谁在宿命里安排
冰雪不语寒夜的你那难隐藏的光彩

看我看一眼吧莫让红颜守空枕
青春无悔不死永远的爱人

让流浪的足迹在荒漠里写下永久的回忆
飘去飘来的笔迹是深藏的激情你的心语

前尘红世轮回中谁在声音里徘徊
痴情笑我凡俗的人世终难解的关怀…

 

看我看一眼吧莫让红颜守空枕
青春无悔不死永远的爱人

让青春吹动了你的长发让它牵引你的梦
不知不觉这城市的历史已记取了你的笑容

红红心中蓝蓝的天是个生命的开始
春雨不眠隔夜的你曾空独眠的日子

春雨不眠隔夜的你曾空独眠的日子

 

คำศัพท์

  • 青春 [qīngchūn] เยาว์วัย
  • 牵引 [qiānyǐn] จูง
  • 不知不觉 [bùzhībùjué] ไม่ทันรู้สึกตัว
  • 城市 [chéngshì] เมือง
  • 历史 [lìshǐ] ประวัติศาสตร์
  • 记取 [jìqǔ] จำใส่ใจ, จดจำ
  • 笑容 [xiàoróng] รอยยิ้ม
  • 红红心中 [hónghóngxīnzhōng] ในหัวใจสีแดง
  • 蓝蓝的天 [lánlándetiān] ท้องฟ้าสีคราม
  • 生命 [shēngmìng] ชีวิต
  • 开始 [kāishǐ] เริ่มต้น
  • 春雨 [chūnyǔ] ฝนในฤดูใบไม้ผลิ
  • 不眠 [bùmián] ไม่หลับใหล
  • 隔夜 [géyè] คืนที่แล้ว
  • 日子 [rìzi] วันเวลา
  • 娇艳 [jiāoyàn] งามเพริศแพร้ว
  • 绽 [zhàn] แตกออก, ปริออก
  • 花朵 [huāduǒ] ดอกไม้
  • 红颜 [hóngyán] ใบหน้าที่สวยงาม, สาวสวย
  • 深藏 [shēncáng] ซุกซ่อนไว้
  • 满天 [mǎntiān] เต็มฟ้า
  • 幻想 [huànxiǎng] เพ้อฝัน
  • 笑脸 [xiàoliǎn] ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
  • 飞絮 [fēixù] ปุ๋ยนุ่น (絮 ใยฝ้าย)
  • 红尘 [hóngchén] โลกมนุษย์
  • 宿命 [sùmìng] ชะตากรรม
  • 安排 [ānpái] จัดการ
  • 冰雪 [bīngxuě] น้ำแข็งและหิมะ
  • 寒夜 [hányè] คืนที่หนาวเหน็บ
  • 光彩 [guāngcǎi] แสงที่แผ่รัศมี
  • 隐藏 [yǐncáng] ปิดซ่อน
  • 看一眼 [kànyìyǎn] มองแวบหนึ่ง
  • 莫 [mò] ไม่มี, ไม่มีใคร
  • 守 [shǒu] ปกป้อง
  • 空 [kōng] ว่าง, ท้องฟ้า
  • 枕 [zhěn] หมอน
  • 无悔 [wúhuǐ] ไม่เสียใจ
  • 永远 [yǒngyuǎn] นิรันดร์กาล
  • 爱人 [àirén] คนรัก
  • 流浪 [liúlàng] พเนจร, ร่อนเร่
  • 足迹 [zújī] รอยเท้า
  • 荒漠 [huāngmò] ทะเลทรายเวิ้งว้าง
  • 永久 [yǒngjiǔ] ตราบนานเท่านาน
  • 回忆 [huíyì] หวนคิด
  • 笔迹 [bǐjī] รอยขีดเขียน
  • 激情 [jīqíng] อารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
  • 心语 [xīnyǔ] ภาษาใจ
  • 前尘 [qiánchén] อดีต
  • 轮回 [lúnhuí] วัฏจักร
  • 声音 [shēngyīn] เสียง
  • 徘徊 [páihuái] ลังเล
  • 痴情 [chīqíng] หลังรัก,หลงเสน่ห์
  • 凡俗 [fánsú] โลกีย์
  • 人世 [rénshì] โลกมนุษย์
  • 关怀 [guānhuái] ห่วงใย

ศัพท์ภาษาจีนเช้านี้ : ศัพท์ที่น่าสนใจ ตอนที่18

  • 浪涛 [làngtāo] คลื่น
  • 寂寥 [jìliáo] อ้างว้าง
  • 竟 [jìng] ท้ายสุด
  • 惹 [rě] ก่อให้เกิด,ยุแหย่
  • 彩云 [cǎiyún] เมฆสี
  • 何处 [héchù] แห่งใด
  • 追随 [zhuīsuí] ติดตาม
  • 情缘 [qíngyuán] บุพเพสันนิวาส
  • 相聚 [xiāngjù] อยู่ร่วมกัน
  • 无悔 [wúhuǐ] ไม่สำนึกเสียใจ
  • 柔情 [róuqíng] รักละมุน
  • 痴心 [chīxīn] ใจลุ่มหลง
  • 缱绻 [qiǎnquǎn] อาลัยรัก
  • 绸缪 [chóumóu] ผูกพัน
  • 偶遇 [ǒuyù] บังเอิญพบกัน
  • 偶 [ǒu] คู่
  • 侬 [nóng] ฉัน
  • 枯 [kū] แห้งเหี่ยว
  • 忆 [yì] หวนระลึก
  • 往事 [wǎngshì] เรื่องราวที่ผ่านมา, ความหลัง
  • 悄悄 [qiāoqiāo] เงียบๆ
  • 溜走 [liūzǒu] เดินจากไป, แอบหนีไป
  • 忧愁 [yōuchóu] เป็นทุกข์,หดหู่ใจ,เศร้า
  • 相 [xiāng] ซึ่งกันและกัน, ต่อกันและกัน
  • 分手 [fēnshǒu] แยกจากกัน
  • 转眼 [zhuányǎn] พริบตาเดียว
  • 悲哀 [bēi’āi] โศกเศร้า
  • 街头 [jiētóu] หัวถนนใหญ่, มุมถนน
  • 凄凉 [qīliáng] เศร้าวิเวกวังเวง
  • 离愁 [líchóu] ความระทมทุกข์จากการพรากจาก
  • 擎 [qíng] ยกขึ้น,ชูขึ้น
  • 殷勤 [yīnqín] เอาใจใส่, ไมตรีจิต
  • 牢牢 [láoláo] มั่นคง
  • 抚 [fǔ] ปลอบใจ
  • 怀 [huái] จิตใจ, หน้าอก
  • 相见 [xiāngjiàn] ได้พบกัน
  • 别离 [biélí] จากกัน
  • 难道 [nándào] คงจะ, เชียวหรือ
  • 见面 [jiànmiàn] พบหน้ากัน
  • 明明 [míngmíng] ชัดแจ้ง, กระจ่าง
  • 熬煎 [áojiān] ความทุกข์
  • 交待 (交代) [jiāodài] กำชับ
  • 采 [cǎi] เด็ด
  • 忘怀 [wànghuái] ลืม
  • 迷失 [míshī] หลง
  • 暗淡 [àndàn] ใจหดหู่,ไม่เบิกบาน, หม่นมัว
  • 蒙蒙 [méngméng] สลัวราง
  • 烟雾 [yānwù] หมอกควัน
  • 永久 [yǒngjiǔ] นิรันดร์กาล
  • 生生世世 [shēngshēngshìshì] ทุกๆชาติ
  • 滔滔 [tāotāo] น้ำท่วมนอง,เชี่ยวกราก
  • 停留 [tíngliú] หยุด
  • 奔(奔,逩) [bèn] มุ่งหน้าไป, มุ่งไปสู่
  • 独自 [dúzì] คนเดียว, โดยลำพัง
  • 徘徊 [páihuái] เดินไปเดินมา
  • 难道 [nándào] หรือว่า
  • 海浪 [hǎilàng] คลื่นทะเล
  • 飘荡 [piāodàng] โบกสะบัด, ปลิวสะบัด
  • 衣裳 [yīshang] เสื้อผ้า
  • 飞翔 [fēixiáng] บินร่อน, บินฉวัดเฉวียน
  • 围绕 [wéirào] วนอยู่รอบ, ล้อมรอบ
  • 身旁 [shēn[páng] ข้างกาย
  • 风浪 [fēnglàng] พายุคลื่น
  • 纵然 [zòngrán] ถึงแม้
  • 寂寞 [jìmò] เปล่าเปลี่ยว, ความเหงา
  • 浮云 [fúyún] เมฆลอย
  • 掠过 [lüèguò] ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
  • 相思 [xiāngsī] เป็นไข้ใจ,ป่วยด้วยโรครัก
  • 君 [jūn] กษัตริย์, ราชา, Mr.
  • 寸断 [cùnduàn] แตกเป็นชิ้นๆ
  • 肝肠寸断 [gānchángcùnduàn] ตับไตใส้พุงถูกตัดเป็นชิ้น เปรียบถึงเจ็บจนแทบจะขาดใจ
  • 愈 [yù] ยิ่ง…ยิ่ง… (愈战愈勇 ยิ่งรบยิ่งกล้า)
  • 巍巍 [wēiwēi] สูงส่ง
  • 国花 [guóhuā] ดอกไม้ประจำชาติ
  • 沧海 [cānghǎi] ทะเล
  • 苍天 [cāngtiān] ท้องฟ้า, สวรรค์
  • 浮沉 [fúchén] ผุบๆโผล่ๆ, จมๆลอยๆ
  • 朝 [zhāo] เช้า, วัน
  • 朝 [cháo] ราชวงศ์
  • 潮 [cháo] กระแสน้ำ, การเคลื่อนไหว
  • 纷纷 [fēnfēn] เซ็งแซ่
  • 晓 [xiǎo] รุ่งอรุณ, รู้, บอก
  • 知晓 [zhīxiǎo] รู้, เข้าใจ

เพลงจีน : ขอบคุณ [谢谢你-刀郎]

เรียนภาษาจีนจากเพลง

谢谢你-刀郎

假如人生能够留下 可以延续的记忆
หากชีวิตคนเรายังคงอยู่ต่อไป ความทรงจำก็สามารถยืดยาวต่อไป
我一定选择感激
ฉันย่อมต้องเลือกสิ่งที่ซาบซึ้งใจ
如果在我临终之前 还能发出声音
หากก่อนวาระสุดท้ายของชีวิต ยังสามารถเปล่งเสียงได้
我一定会说一句谢谢你
ฉันย่อมต้องพูดขอบคุณเธอสักคำ

*如果生命之重 可以用我双手托起
หากความหนักอึ้งของชีวิต สามารถใช้สองมือของฉันแบกรับไว้
你定是我生命的精灵
เธอย่อมเป็นชีวิตจิตใจในชีวิตของฉัน
如果爱 能让我们永远在一起
หากความรัก สามารถทำให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้นิรันดร์
我一定对它说一句谢谢你
ฉันย่อมต้องพูดขอบคุณเธอสักคำ

**谢谢你 你搂着我的伤痛 抱着我受伤的心
ขอบคุณเธอ ที่เธอโอบกอดความเจ็บปวดของฉัน โอบกอดใจที่บาดเจ็บของฉัน
在迷乱尘世中 从来未曾说放弃
ท่ามกลางโลกที่สับสนนี้ แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็ไม่เคยกล่าวคำเลิกกัน
你牵着我的手 走进明天的风雨
เธอจูงมือฉัน เดินฝ่าลมฝนของวันพรุ่งนี้
不管前路崎岖 你从来坚定
ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะขรุขระ  เธอไม่หวั่นไหวเสมอมา
谢谢你让我可以在平凡的世界 发现我自己
ขอบคุณที่เธอทำให้ฉันสามารถค้นพบตัวเองในโลกที่ธรรมดานี้
不管是否有阳光照耀 我依然美丽
ไม่ว่าจะมีแสงอาทิตย์ส่องแสงหรือไม่  ฉันก็ยังคงสวยงาม
你让我明白爱你就是爱我自己
เธอทำให้ฉันเข้าใจ รักเธอก็คือรักตัวฉันเอง
你让我学会珍惜生活里的点点滴滴*,**
เธอทำให้ฉันได้เรียนรู้ถึง สิ่งเล็กๆน้อยๆในชีวิตที่น่าทนุถนอม

คำศัพท์

  • 假如 [jiǎrú] ถ้าหากว่า
  • 人生 [rénshēng] ชีวิต
  • 能够 [nénggòu] สามารถ
  • 留下 [liúxià] เหลือไว้
  • 可以 [kěyǐ] อาจจะ
  • 延续 [yánxù] ต่อเนื่อง, ต่อไป
  • 记忆 [jìyì] ความจำ
  • 一定 [yīdìng] แน่นอน
  • 选择 [xuǎnzé] เลือก
  • 感激 [gǎnjī] ซาบซึ้งใจ
  • 如果 [rúguǒ] ถ้าหาก
  • 临终 [línzhōng] จวนจะตาย
  • 之前 [zhīqián] ก่อน
  • 发出 [fāchū] ส่งออก, การปล่อยออกมา
  • 声音 [shēngyīn] เสียง
  • 谢谢 [xièxiè] ขอบคุณ
  • 生命 [shēngmìng] ชีวิต
  • 双手 [shuāngshǒu] มือทั้งสอง
  • 精灵 [jīnglíng] จิตวิญญาณ, สิ่งที่ฉลาด
  • 我们 [wǒmén] พวกเรา
  • 永远 [yǒngyuǎn] ตลอดไป, นิรันดร์
  • 一起 [yīqǐ] ด้วยกัน, พร้อมกัน, สถานที่เดียวกัน
  • 我的 [wǒde] ฉัน, ของฉัน
  • 受伤 [shòushāng] ได้รับบาดเจ็บ
  • 尘世 [chénshì] โลกนี้
  • 从来 [cónglái] แต่ไหนแต่ไรมา
  • 未曾 [wèicéng] ยังไม่ได้, ยังไม่
  • 放弃 [fàngqì] ละทิ้ง
  • 明天 [míngtiān] พรุ่งนี้
  • 风雨 [fēngyǔ] พายุฝน
  • 不管 [bùguǎn] ไม่ว่าจะ, ไม่คำนึงถึง
  • 崎岖 [qíqū] ขรุขระ
  • 坚定 [jiāndìng] ไม่หวั่นไหว/เด็ดเดี่ยว
  • 平凡 [píngfán] ปกติ
  • 世界 [shìjiè] โลกใบนี้
  • 发现 [fāxiàn] ค้นพบ
  • 我自己 [wǒzìjǐ] ตัวเราเอง
  • 是否 [shìfǒu] ใช่หรือไม่
  • 阳光 [yángguāng] แสงอาทิตย์
  • 照耀 [zhàoyào] ส่องแสง
  • 依然 [yīrán] ยังคง
  • 美丽 [měilì] สวยงาม
  • 明白 [míngbai] เข้าใจ
  • 就是 [jiùshì] ก็คือ
  • 学会 [xuéhuì] เรียนรู้
  • 珍惜 [zhēnxī] สมบัติ, ค่า, รักและทะนุถนอม
  • 生活 [shēnghuó] ชีวิต
  • 点滴 [diǎndī] เล็กๆน้อยๆ

ภาษาจีน 30 นิสัยที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ (改变你一生的30个关键习惯)

30 นิสัยที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ

改变你一生的30个关键习惯
30 นิสัยที่เป็นกุญแจสำคัญเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ

习惯1:先做重要的事情
นิสัยที่1 ทำงานที่สำคัญก่อน

习惯2:做事一定要专注
นิสัยที่2 ทำงานต้องมุ่งมั่น

习惯3:凡事都往好的方面想的奇力
นิสัยที่3 พลังมหัศจรรย์การมองทุกสิ่งในแง่ดี (มองโลกในแง่ดีเสมอ)

习惯4:养成独立自主的习惯
นิสัยที่4 ปลูกฝังนิสัยยืนด้วยลำแข้งตนเอง

习惯5:珍惜时间
นิสัยที่5 หวงแหนเวลา (ถนอมเวลา)

习惯6:重视金钱
นิสัยที่6 เห็นความสำคัญของเงินทอง

习惯7:从细节做起
นิสัยที่7 ทุกอย่างต้องเริ่มจากรายละเอียดเล็กน้อย

习惯8:决不抱怨
นิสัยที่8 อย่าบ่นและโทษผู้อื่นหรือโทษโชคชะตาเป็นอันขาด

习惯9:养成勇於负责的习惯
นิสัยที่9 ปลูกฝังนิสัยที่กล้ารับผิดชอบ

习惯10:养成善於思考的习惯
นิสัยที่10 ปลูกฝังนิสัยที่ชอบใช้ความคิด

习惯11:严谨细致的做事习惯
นิสัยที่11 นิสัยที่ทำงานอย่างละเอียดรอบคอบ

习惯12:想到就行动
นิสัยที่12 ถ้าคิดจะทำสิ่งใด จงลงมือทำทันที

习惯13:养成学习别人长处的习惯
นิสัยที่13 ปลูกฝังนิสัยเรียนรู้จากข้อดีของผู้อื่น

习惯14:把赞美他人放在第一位
นิสัยที่14 การยกย่องชมเชยผู้อื่นต้องมาก่อนเสมอ

习惯15:养成不怕犯错的习惯
นิสัยที่15 ปลูกฝังนิสัยที่ไม่กลัวความผิดพลาด

习惯16:养成每天自省五分钟的习惯
นิสัยที่16 ปลูกฝังนิสัยพิจารณาตัวเองวันละ 5 นาที

习惯17:养成慎言的习惯
นิสัยที่17ปลูกฝังนิสัยระมัดระวังในการพูด

习惯18:尊重他人
นิสัยที่18 เคารพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ

习惯19:养成自我克制的习惯 (克制 [kè zhì] ควบคุมบังคับ)
นิสัยที่19 ปลูกฝังนิสัยที่ควบคุมตังเอง

习惯20:在行动前设定目标
นิสัยที่20 ตั้งเป้าหมายก่อนปฏิบัติ

习惯21:积极主动的习惯
นิสัยที่21 นิสัยมานะบากบั่น

习惯22:想的到的就能做到
นิสัยที่22 เมื่อมีความฝัน ทุกอย่างเป็นจริงได้เสมอ

习惯23:微笑能改变你的生活
นิสัยที่23 การยิ้มสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณได้

习惯24:每天多学一点点
นิสัยที่24 เรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้เพิ่มขึ้นวันละเล็กวันละน้อย

习惯25:永远保持最佳仪表
นิสัยที่25 คงไว้ซึ่งบุคลิกภาพที่ดีที่สุดตลอดเวลา

习惯26:养成幽默的好习惯
นิสัยที่26 ปลูกฝังนิสัยมีอารมณ์ขัน

习惯27:不苛求完美
นิสัยที่27 ไม่เรียกร้องความสมบูรณ์แบบจนเกินไป

习惯28:突破思维定势 (突破 [tūpò] ทำลาย, 思维 [sīwéi] ความคิด, 定势 [dìngshì] กฎที่แน่นอน)
นิสัยที่28 แหวกกรอบแนวคิด ( คิดนอกกรอบ )

习惯29:积极倾听
นิสัยที่29 ให้ความสำคัญกับการรับฟัง

习惯30:每天多做一点
นิสัยที่30 ทำงานให้มากขึ้นทุกวัน

ศัพท์ภาษาจีนเช้านี้ : ศัพท์ที่น่าสนใจ ตอนที่17

  • 加以 [jiāyǐ] เป็นคำเชื่อม แสดงถึงสาเหตุหรือเงื่อนไขที่เพิ่มเติม มักวางหน้ากลุ่มคำกริยาหรือคำนาม อ่านเพิ่มเติม
  • 安理会 [ānlǐhuì] ย่อมาจาก “联合国安全理事会” หมายถึง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (the (U.N.) Security Council)
  • 不得不… [bùdébù…] หมายถึง ไม่…ไม่ได้ (ไม่มีทางเลือก) เช่น 不得不爱 ไม่รักไม่ได้ (ต้องรัก), 不得不看 ไม่ดูไม่ได้(ต้องดู)
  • 非…不可 … [fēi…bù kě] ต้องทำให้ได้ ไม่ทำไม่ได้ (ไม่มีทางเลือก)
    • 这本书很好看,我非看不可。
    • 今天我很累,我非睡觉不可。
    • 他喜欢你,非看你不可。
  • 舍不得 (捨不得) [shěbude] ตัดใจทิ้งไม่ลง, ทำใจไม่ได้

ศัพท์ภาษาจีน กฎหมาย [法律]

กฎหมาย ภาษาจีน
  • 法律 [fǎlǜ] กฎหมาย
  • 商法 [shāngfǎ] กฎหมายพาณิชย์
  • 民法 [mínfǎ] กฎหมายแพ่ง
  • 刑法 [xíngfǎ] กฎหมายอาญา
  • 戒严令 [jièyánlìng] กฎอัยการศึก
  • 劳动法 [láodòngfǎ] กฎหมายแรงงาน
  • 选举法 [xuǎnjǔfǎ] กฎหมายเลือกตั้ง
  • 法规 [fǎguī] กฎข้อบังคับ
  • 交通规则 [jiāotōngguīzé] กฎจราจร
  • 法律法规 [fǎlǜfǎguī] กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
  • 法律武器 [fǎlǜwǔqì] กฎหมายอาวุธ
  • 法庭 [fǎtíng] ศาล
  • 法院 [fǎyuàn] ศาล
  • 劳工法院 [láogōngfǎyuàn] ศาลแรงงาน
  • 民事法庭 [mínshìfǎtíng] ศาลแพ่ง
  • 刑事法庭 [xíngshìfǎtíng] ศาลอาญา
  • 最高法院 [zuìgāofǎyuàn] ศาลฎีกา
  • 行政法院 [xíngzhèngfǎyuàn] ศาลปกครอง
  • 破产法院 [pòchǎnfǎyuàn] ศาลล้มละลาย
  • 庭长 [tíngzhǎng] หัวหน้าศาล
  • 法官 [fǎguān] ผู้พิพากษา
  • 判案 [pàn’àn] พิพากษา (decide a case)
  • 判决 [pànjué] คำตัดสิน (come to a verdict)
  • 法院令状 [fǎyuàn lìngzhuàng] หมายศาล
  • 搜查证 [sōucházhèng] หมายค้น
  • 逮捕证 [dàibǔzhèng] หมายจับ
  • 公诉人 [gōngsùrén] อัยการ
  • 罪状 [zuìzhuàng] ข้อกล่าวหา
  • 报案 [bào’àn] แจ้งความ
  • 告状 [gàozhuàng] ฟ้องร้อง
  • 诉讼 [sùsòng] ดำเนินคดี
  • 诉状 [sùzhuàng] คำฟ้องร้อง
  • 反诉 [fǎnsù] ฟ้องกลับ
  • 上诉 [shàngsù] ยื่นอุทธรณ์
  • 律师 [lǜshī] ทนายความ
  • 被告 [bèigào] จำเลย
  • 原告 [yuángào] โจทก์
  • 案件 [ànjiàn] คดีความ
  • 判决 [pànjué] คำตัดสิน
  • 证词 [zhèngcí] คำให้การ
  • 嫌疑人 [xiányírén] ผู้ต้องสงสัย
  • 嫌疑犯 [xiányífàn] ผู้ต้องสงสัย
  • 从犯 [cóngfàn] ผู้สมรู้ร่วมคิด
  • 判词 [pàncí] คำพิพากษา
  • 审讯 [shěnxùn] ไต่สวน
  • 证人 [zhèngren] พยาน
  • 目击者 [mùjīzhě] ผู้เห็นเหตุการณ์
  • 犯人 [fànrén] นักโทษ
  • 罪犯 [zuìfàn] นักโทษ
  • 强盗 [qiángdào] โจร
  • 谋杀 [móushā] ฆาตกรรม
  • 凶手 [xiōngshǒu] ฆาตกร
  • 暗害 [ànhài] ลอบทำร้าย
  • 证据 [zhèngjù] หลักฐาน
  • 自首 [zìshǒu] มอบตัว
  • 供认 [gòngrèn] รับสารภาพ
  • 没收财产 [mòshōucáichǎn] ยึดทรัพย์
  • 保释 [bǎoshì] ประกันตัว
  • 缓期处刑 [huǎn qī chǔ xíng] รอลงอาญา
  • 囚犯 [qiúfàn] นักโทษ
  • 坐牢 [zuòláo] ติดคุก ติดตะราง
  • 关押 [guānyā] จำคุก, กักขัง
  • 监狱 [jiānyù] คุก, ตะราง
  • 牢房 [láofáng] คุก, ตะราง
  • 越狱 [yuèyù] หลบหนีจากเรือนจำ
  • 无期徒刑 [wúqītúxíng] จำคุกตลอดชีวิต
  • 处死 [chǔsǐ] ประหารชีวิต
  • 诉苦 [sùkǔ] ร้องทุกข์