一翦梅 [費玉清-เฟ่ยอี้ว์ชิง]
一翦梅 [蔡幸娟-ใช่ซิ่งเจือน]
真情像草原广阔
น้ำใจจริงแท้ ดั่งทุ่งราบกว้างใหญ่
层层风雨 不能阻隔
พายุหนาหนัก ยังมิอาจกั้นขวาง
总有云开 日出时候
เมื่อท้องฟ้าเปิด ตะวันอวดโฉม
万丈阳光 照耀你我
สาดแสงเรืองรองส่องสว่างเธอฉัน
真情像梅花开过
น้ำใจจริงแท้ ดั่งดอกเหมยผลิบาน
冷冷冰雪 不能淹没
หิมะเยือกเย็น ยังมิอาจกลบฝัง
就在最冷枝头绽放
ยามเหน็บหนาวที่สุดบนกิ่งก้านยังเบ่งบาน
看见春天走向你我
มองเห็นฤดูใบไม้เคลื่อนเข้าใกล้ฉันเธอ
* 雪花飘飘 北风啸啸
เกล็ดหิมะปลิดปลิว ลมเหนือหวีดหวิว
天地 一片苍茫
ผืนฟ้าดิน กว้างใหญ่ไพศาล
一剪寒梅 傲立雪中
เหมยกิ่งหนึ่งยืนต้นทระนงกลางหิมะ
只为伊人飘香
เพียงเพื่อส่งกลิ่นกรุ่นหอมสู่เธอที่รัก
爱我所爱 无怨无悔
รักมั่นในคนที่ฉันรัก ไม่เคืองแค้นไม่เสียใจ
此情(此情)长留(长留)心间
ความรู้สึกนี้ คงอยู่ยืนนาน ในหัวใจ
ซ้ำ * 1 รอบ
คำศัพท์
- 草原 [cǎoyuán] ทุ่งราบกว้างที่เต็มไปด้วยต้นหญ้า
- 广阔 [guǎngkuò] กว้างใหญ่ไพศาล
- 阻隔 [zǔgé] แยกห่าง ตัดทอน
- 照耀 [zhàoyào] ส่องให้สว่าง
- 万丈 [wànzhàng] สูงหรือลึกมาก
- 淹没 [yānmò] ปกคลุม
- 傲立 [àolì] หยัดยืนด้วยความภูมิใจ
- 伊人 [yīrén] เป็นคำเรียกหญิงอันเป็นที่รัก
- 枝头 [zhītóu] บนกิ่งก้าน
- 绽放 [zhànfàng] เบ่งบาน(ดอกไม้)
- 啸啸 [xiàoxiao] เสียงที่เกิดจากธรรมชาติ, เสียงพัดของลม
- 飘飘 [piāopiāo] ปลิดปลิว(ลมพัด)
- 苍茫 [cāngmáng] กว้างใหญ่ไพศาล
- 无怨无悔 [wúyuànwúhuǐ] ไม่เคืองแค้นไม่เสียใจ
อี้เจี่ยนเหมย(一剪梅)” หรือ “เหมยหนึ่งกิ่ง” เดิมทีเป็นคำที่โด่งดังมาจากวรรคหนึ่งในบทกวีของ “โจวปังเอี้ยน(周邦彦)” นักกวีและนักสร้างคำสมัยปลายราชวงศ์ซ่งเหนือ ซึ่งเขียนเอาไว้ว่า “ดอกเหมยหนึ่งกิ่งมีความงดงามนับหมื่นแบบ(一剪梅花万样娇)” ต่อมาคำว่า “อี้เจี่ยนเหมย” จึงถูกหยิบยกมาใช้ทั้งในบทประพันธ์ บทละคร และเพลงต่างๆ มากมาย
สำหรับเพลง “อี้เจี่ยนเหมย(一剪梅)” หรือ “เหมยหนึ่งกิ่ง” ที่นำมาให้ฟังกันในวันนี้ เป็นเพลงประกอบละครชุดไต้หวันชื่อเดียวกัน ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1984 นำแสดงโดย “โค่วซื่อซุน(寇世勋)”
ละครชุดไต้หวัน “อี้เจี่ยนเหมย” ปี 1984
เพลงนี้ประพันธ์เนื้อร้องโดย “เฉิน อี้ว์เจิน(陈玉贞)” นักแต่งเพลงชื่อดังที่รังสรรค์ผลงานเอาไว้ในเพลงดังหลายยุค ไม่เพียงแต่เพลงของ เฟ่ยอี้ว์ชิง เท่านั้น เฉิน อี้ว์เจินยังเคยเรียงร้อยถ้อยคำลงในเพลงของนักร้องดังหลายต่อหลายคน อาทิ จังเสวียโหย่ว,Beyond,จังกั๋วหรง,เฉินอี้ซวิ่น,เฉินก้วนซี,เถาเจ๋อ รวมถึงโจวเจี๋ยหลุน(เจย์ โจว)อีกด้วย ส่วนผู้ประพันธ์ทำนองของเพลงอี้เจี่ยนเหมยคือ “เฉิน ปี่เต๋อ(陈彼得)” ซึ่งถือว่าเป็นนักดนตรีรุ่นที่สองของไต้หวัน ยุครุ่งเรืองของเขาอยู่ระหว่างยุคของเวิง ชิงซี ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงให้เติ้งลี่จวินกับยุคที่ไต้หวันนิยมเพลงของนักศึกษาในรั้ววิทยาลัย โดยอาจกล่าวได้ว่า เฉิน ปี่เต๋อ เป็นนักดนตรีที่มีอิทธิพลต่อแนวเพลงของไต้หวันในยุค 70-80 อย่างยิ่งคนหนึ่ง ส่วนต้นฉบับผู้ขับร้องเพลงอี้เจี่ยนเหมยเป็นคนแรกคือ “เฟ่ย อี้ว์ชิง(费玉清)”
เฟ่ย อี้ว์ชิง เกิดที่เกาะไต้หวัน ค.ศ. 1955 บ้านเดิมของบรรพบุรุษอยู่ที่มณฑลอานฮุยในจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นนักร้องและพิธีกรมากความสามารถแห่งเกาะไต้หวัน เฟ่ย อี้ว์ชิง หลงใหลในเสียงเพลงมาตั้งแต่วัยเด็ก เขาผ่านเวทีประกวดร้องเพลงมาแล้วหลายต่อหลายเวที แต่เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่ออายุ 17 ปี หลังจากชนะเลิศการประกวดร้องเพลงจากเวทีหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยึดอาชีพร้องเพลงมาโดยตลอด เขาอาศัยเสียงที่ไพเราะหวานทุ้มครองตำแหน่ง “ราชาเสียงทอง” ที่น้อยคนจะเทียบเทียมได้ นักฟังเพลงต่างเห็นตรงกันว่าเสียงร้องของเขานอกจากจะมีความเป็นจีนอย่างสูงแล้ว น้ำเสียงยังเป็นมิตร ให้ความคุ้นเคย พาลให้ผู้ที่ได้ฟังเกิดความรู้สึกรำลึกถึงอดีต กลายเป็นรสชาติที่หอมหวานประการหนึ่ง
“เฟ่ย อี้ว์ชิง” ร่วมงานกับ “เจย์ โจว”
ถึงปัจจุบัน เฟ่ย อี้ว์ชิง ออกอัลบั้มของตัวเองมามากกว่า 40 อัลบั้ม ได้รับรางวัลด้านการร้องเพลงมาแล้วหลายต่อหลายรางวัล และนอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว เขายังเป็นพิธีกรรายการบันเทิงทางโทรทัศน์หลายรายการซึ่งล้วนได้รับความนิยมล้นหลามจากผู้ชม ความโด่งดังของเขาแพร่กระจายไปทั่วเอเชีย รวมถึงในจีนแผ่นดินใหญ่ อาทิ เซี่ยงไฮ้ หนานจิงในยุคหลัง ได้เชิญเขาไปเปิดการแสดงบ่อยครั้ง
ปี ค.ศ. 2006 เฟ่ย อี้ว์ชิง ตอบรับคำเชิญของศิลปินชื่อดังแห่งยุค “โจว เจี๋ยหลุน(เจย์ โจว )” มาร่วมร้องเพลง “เชียนหลี่จือไว่(千里之外)” ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง กลายเป็นเพลงที่สร้างชื่อให้โจว เจี๋ยหลุน และขณะเดียวกันก็ทำให้นักฟังทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างก็ยอมรับนับถือในความสามารถทางดนตรีการของนักร้องต่างวัยคู่นี้อย่างไร้ข้อกังขา
อ้างอิง : https://www.manager.co.th