เกร็ดมังกร ตอน ทำไมอักษรจีนเขียนจากบนลงล่าง ไล่บรรทัดจากขวาไปซ้าย?
甲骨文อักษรบนกระดูกสัตว์ 竹简/牍 อักษรที่บันทึกบนม้วนไม้ไผ่ ส่งผลต่อวัฒนธรรมการเขียนภาษาจีนอย่างไร?
หลายคนเข้าใจได้ไม่ยากว่า การเขียนจากบนลงล่างนั้นเพราะ อักษรจีนสมัยเเรกเริ่ม เขียนด้วยวิธี เขียนฝาผนัง เเกะสลักลงกระดูกสัตว์ เเล้วค่อยเปลี่ยนเป็นการเขียนด้วยพู่กัน ซึ่ง การเขียนในเเนวดิ่งย่อมง่ายกว่า เช่น เขียนฝาผนัง ผู้เขียนไม่ต้องเดินกลับไปกลับมา
สามารถเขียนเเนวดิงเสร็จเเถวหนึ่งเเล้วขึ้นเเถวใหม่โดยขยับไปอีกเเค่ก้าวเดียว หรือการเเกะบนกระดูกสัตว์ การกดกระดูกสัตว์ให้ติดกับพื้น/ของเเข็ง ในเเนวตั้ง จะมั่นคงกว่า การกดวางในเเนวนอน(เอามือกดไว้ตรงข้างบนเเล้ว เเกะไล่ลงมาในเเนวดิ่ง) ส่วนการเขียนพู่กัน การเขียนเเนวดิ่งก็เอื้อต่อการเขียนโดยไม่มีเส้นบรรทัดกำกับอยู่เเล้ว
เเต่ทำไมต้องเขียนจากขวาไปซ้ายล่ะ เพราะหลายคนมองว่า ถ้าเขียนจากขวาไปซ้าย เเขนของคนเขียน(ถือพู่กันมือขวา) ก็จะวางทับตัวอักษรที่ตัวเองเขียนไปนะสิ ตัวอักษรก็เลอะพอดี ทำไมไม่เขียนจากซ้ายไปขวา?
ข้อสันนิษฐานของนักวิทยาศาสตร์เเละนักโบราณคดีมีดังนี้ครับ
1.ถ้าเป็นกรณีอักษร甲骨文ที่เเกะลงกระดูกสัตว์ น่าจะเกิดจากการลงหมึกเป็นเเบบอักษรก่อนโดยผู้ที่มีความรู้ เเล้วค่อยให้ช่างฝีมือใช้มีดเเกะตามรอยหมึก เพราะครั้นจะให้ผู้มีความรู้มานั่งเขียนเองเเละเเกะเองคงเสียเวลามาก การเขียนต้องพึ่งความรู้
เเต่การเเกะเป็นงานเเรงงาน ช่างเเกะไม่จำเป็นต้องมีความรู้เยอะ เเค่พออ่านออก ไม่งงก็พอเเล้ว จึงเกิดการเเบ่งหน้าที่กัน ให้นักวิชาการเขียนด้วยหมึก จะเขียนเร็วกว่ามาก เเล้วค่อยให้ ทีมช่างเเกะสลักเเบ่งกันไปเเกะต่อ
มีข้อสันนิษฐานอีกเเบบหนึ่งคือ ในยุคโบราณ การอ่านไล่จากขวาไปซ้ายหรือซ้ายไปขวา ง่ายพอๆกัน เพราะตัวหนังสือมีขนาดใหญ่เละตาไม่จำเป็นต้องก้มใกล้กับตัวหนังสือมาก ที่สำคัญ การบันทึกอักษรในยุคเเรกๆส่วนมากเกิดขึ้นในพิธีกรรมทางความเชื่อ
เช่นบันทึกคำทำนาย คำพยากรณ์ของหมอผีเป็นต้น ฉะนั้น คนออกเเบบวิธีอ่านจึงคำนึงถึงขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นหลัก ซึ่งคนจีนโบราณยึดถือ ฟ้าอยู่เหนือ ดินอยู่ล่าง ขวาเป็นหลัก ซ้ายเป็นรอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงเรียงจากขวาไปซ้าย (บางความเชื่อที่มีการเีรียนจากซ้ายไปขวาเกิดขึ้นในภายหลัง) ฉะนั้น การเขียน/บันทึกข้อความในพิธีกรรม ต้องไล่จากบนลงล่าง ขวาไปซ้ายเสมอนั่นเอง จึกกลายเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมจำเป็นต้องเเกะจากขวามาซ้ายครับ เพราะถ้าเเกะจากซ้ายมาขวา สันมือของช่างก็จะไปโดนหมึกตัวอักษรที่อยู่ข้างขวาตลอดเวลา ตัวหนังสือก็จะถูกลบหรือถูกทำเลอะอย่างเเน่นอน ฉะนั้นต้องเเกะจากขวามาซ้าย สันมือก็จะไม่โดยหมึกตัวอักษรที่ยังไม่เเกะ จึงเป็นที่มาของ วิธีเเบบ บนลงล่าง ขวาไปซ้าย นั่นเอง
2.ในกรณีของม้วนอักษรไม้ไผ่竹简/牍 ซึ่งเขียนด้วยหมึกล้วน ไม่มีการเเกะสลัก ทำไมยังเขียนจากขวาไปซ้ายล่ะ? คำอธิบายคือ ในความเป็นจริง ในระยะเเรกของการคิดค้นม้วนอักษรไม้ไผ่ คนโบราณจะเขียนเป็นซี่ๆก่อน เเล้วค่อยเอาซี่ไม้ไผ่มาร้อยเป็นเล่มภายหลังครับ เพราะในระยะเเรกอาจจะยังไม่มีกรรมวิธีป้องกันการขึ้นราของไม้ไผ่ ถ้าร้อยไว้ตั้งเเต่เเรก เกิดมีซี่หนึ่งดันขึ้นรา ก็จะต้องเอาออก ร้อยเข้าไปใหม่ เสียเวลาโดยใช่เหตุ
เเละอีกประการคือ เอาเข้าจริงๆ ผู้เขียนบางครั้งก็ไม่รู้ว่า ต้องเขียนมากหรือน้อยเเค่ไหน ถ้าบทความสั้นมาก เเต่ม้วนไม้ไผ่ดันยาว ก็เหลือพื้นที่ว่างเปล่า กลายเป็นความสิ้นเปลือง ฉะนั้น การเขียนยุคเเรกจะเป็นการ เลือกเเผ่น/ซี่ไม้ไผ่มาเขียนทีละซี่ โดยเเผ่นเเรกกับเเผ่นสุดท้ายมีเครื่องหมายกำกับไว้ด้านหลัง (ส่วนซี่ระหว่างบทความไม่ต้องทำเครื่อหมาย
เพราะเนื้อหาที่เขียนลงไปมันต้องเชื่อมต่อกันอ่านรู้เรื่องอยู่เเล้ว) ฉะนั้นกว่าจะเป็นหนังสือหนึ่งเล่มมันจะผ่านกระบวนการ 2 ขั้นตอน คือ เขียนเป็นซี่ๆ เเล้วค่อยร้อยเป็นเล่มๆ
การเขียนเป็นซี่ย่อมต้องเขียนจากบนลงล่าง เพราะสะดวกเเก่ผู้เขียนเเละควบคุมความบรรจงเเละความสวยงามได้ง่าย
ส่วนเย็บเล่ม ผู้เย็บเล่มก็คำนึงถึง วิธีการคลี่อ่านเป็นหลัก ซึ่งคนส่วนใหญ่ถนัดขวา ใช้มือข้างที่ถนัดจับม้วนไม้ไผ่ไว้(ม้วนไม้ไผ่ค่อนข้างหนัก)ให้มั่นคง เเล้วใช้มือซ้ายคลี่เบาๆ ก็อ่านได้ถนัดเเล้วครับ ด้วยเหตุนี้ ผู้เย็บเล่มเขาก็ต้องเย็บบรรทัดเเรกให้อยู่ข้างขวาโดยปริยาย เป็นที่มาของการไล่บรรทัดจากขวาไปซ้ายในภาษาจีน
ส่วนการเขียนจากซ้ายไปขวา ไล่บรรทัดจากบนลงล่างตามหลักสากลนั้น เกิดขึ้นในยุคหลังราชวงศ์清 เป็นยุคที่เลิกใช้พู่กัน เเต่ใช้ดินสอกับปากกา กระดาษมีน้ำหนักเบาใช้มือซ้ายกดไว้เบาๆก็สามารถลากเส้นจากซ้ายไปขวาได้สบายๆ เเละการเขียนตามเเนวขวางก็สบายตากว่า เพราะการใช้ดินสอปากกาเขียนหนังสือ ระยะการมองระหว่างตากับกระดาษมันใกล้มาก ถ้ายังอ่านจากบนลงล่างจะปวดตาเเละตาลายได้ง่ายๆครับ
ประมาณนั้น สวัสดี(-/i\-)
ติดตามได้ใน…อ.อี้hsk&patจีน